ที่ บ้านบงเหนือ ต.บงเหนือ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร มีครอบครัวหนึ่งได้มีการเตรียมจัดงานพิธีสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลให้กับ นายเพชร อายุ 45 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม ว่าเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 68 พบชายนอนเสียชีวิตสาเหตุจากอากาศหนาวเย็น และเมื่อตรวจสอบรูปพรรณสันฐานในเบื้องต้นร่างผู้เสียชีวิตไปตรงกับ นายเพชร จึงประสานแจ้งข่าวการตายและส่งรูปมาหาญาติที่ จ.สกลนคร

ต่อมาวันที่ 21 ม.ค.68 ได้มีการส่งร่างตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลขอนแก่นแพทย์ให้ไปยืนยันตัวตนอีกครั้ง ปรากฎว่า น้องชายนายเพชร พบข้อสงสัยว่าบนร่างกายผู้เสียชีวิตไม่มีรอยสัก เพราะจำได้ว่านายเพชรพี่ชายตนเองมีรอยสัก 3 จุดด้านหลัง จึงเริ่มเอะใจ ประจวบเหมาะกับที่ญาติที่ จ.สกลนคร โทรศัพท์บอกว่านายเพชรกลับมาถึงบ้านแล้ว คราวนี้ชัดเจนเลยว่าร่างผู้เสียชีวิตรายนี้ไม่ใช่นายพี่เพชรตามที่ตำรวจแจ้งมา

โดยตามประเพณีท้องถิ่นหากได้รับการแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต ญาติและชาวบ้านระแวกใกล้เคียงจะเริ่มมีการเตรียมงาน เช่นเดียวกับครอบครัวของนายเพชร ที่เมื่อวันที่ 19 ม.ค.68 ได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตก็ทยอยเตรียมงานศพ มีการล้มหมู กางเต้นท์ จัดโต๊ะเก้าอี้ สั่งน้ำแข็งน้ำดื่ม เรียกญาติพี่น้องที่อยู่ตามต่างจังหวัดให้มารวมตัวกัน พอมาเกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้จึงต้องได้ยกเลิกงานไป แต่สิ่งที่ตามมาคือสูญเงินไปหมื่นกว่าบาทฟรีๆ แล้วเรื่องแบบนี้ใครต้องรับผิดชอบ

นักข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าวยังพบว่ามีถังน้ำแข็ง 3 ถัง ถังน้ำจำนวนมากวางไว้อยู่ และพบกับญาติที่ต้องลางานมาจากภาคกลางจับกลุ่มรับประทานอาหารอยู่ โดยครอบครัวได้นำรูปตั้งหน้าศพที่สั่งทำไว้แล้วพร้อมเจ้าตัวมายืนยันว่ามีการจัดเตรียมงานจริงแต่นายเพชร ศรีจันทะจร ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเจ้าตัวยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายธงชัย น้องชายนายเพชร เผยว่า พ่อได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนอีกทีว่า ตำรวจ สภ.บรบือ ว่าพี่ชายเสียชีวิตและได้นำรูปหน้าตรงศพผู้เสียชีวิตถ่ายส่งมาให้ดู ซึ่งใบหน้าคล้ายกับพี่ชาย จึงเดินทางจาก กทม.เพื่อไปรับร่างกลับบ้าน แต่พอไปพิสูจน์อัตลักษณ์กลับพบว่าไม่ใช่พี่ชายตนเพราะศพไม่มีรอยสัก แล้วญาติก็โทรมาบอกว่านายเพชรพี่ชายกลับมาบ้านแล้วนะ จู่ๆก็ขี่รถ จยย.พ่วงข้าง คู่ใจขับเข้ามาในงานหน้าตาเฉย ญาติที่จัดเตรียมงานศพอยู่ถึงกับผวาคิดว่าเป็นผีนายเพชรมาหลอก

จนต้องได้จับตัวพิสูจน์ว่าเป็นคนจริงๆ หรือไม่ สำหรับเรื่องนี้ครอบครัวก็คิดเสียว่าเป็นการต่อชะตาให้พี่ชาย แต่อยากวอนไปถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแจ้งข่าวสาร ว่าให้ช่วยเหลือกับครอบครัวเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะสูญเสียค่าจัดเตรียมงานไปหมื่นกว่าบาท

สำหรับ นายเพชร มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ปกติไม่ค่อยอยู่บ้านมักจะพเนจรไปสถานที่ต่างๆ และไปไกลต่างจังหวัด บางครั้งหายไปเป็นปีก็มี ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2567 นายเพชรไปมีปัญหาตรงพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บรบือ จริง จึงถูกนำตัวไปทำประวัติไว้ประกอบกับบัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกทำประวัติเป็นช่วงวัยอายุน้อยกว่าปัจจุบัน อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจคาดเคลื่อนว่าผู้เสียชีวิตคือชายนิรนามรายดังกล่าวว่าเป็นนายเพชรก็เป็นได้เลยติดต่อหาญาติ

สำหรับศพตัวจริงนั้นทราบมาว่ายังไร้ญาติอยู่ซึ่งทาง จนท.สภ.บรบือ จ.มหาสารคามก็ต้องประกาศตามหาญาติของชายนิรนามต่อไป