เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ม.ค.68 มีรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพัก ภายในชุมชนกลางซอยไพโอเนีย หมู่ 2 และหมู่ 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวติดกันจำนวนหลายหลัง แสงเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งกลางชุมชนก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้พักอาศัยและกลุ่มแรงงานต่างด้าว ต่างจะอพยพหนีตาย ขนข้าวของภายในบ้านพักของตัวเองออกมายังพื้นที่ปลอดภัย

ขณะที่แรงงานพม่าและคนไทยกว่า 20 คน ต้องช่วยกันยกรถกระบะที่จอดอยู่ในโรงจอดรถและไฟกำลังลุกลามมาถึง โดยได้พลังความสามัคคียกรถออกมาได้อย่างปลอดภัยด้วยมือเปล่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บางโฉลง ต้องระดมรถดับเพลิงเกือบ 10 คัน พร้อมกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ต้องช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายากไปกว่านี้

โดยใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ ซึ่งพอเพลิงสงบเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย อายุ 49 ปี ถูกไฟคลอกเสียชีวิตภายในบ้านพักของตัวเอง

น.ส.อ่อน อินสมบัติ หนึ่งในบ้านพักที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า บ้านของตนถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง สิ่งของภายในบ้าน รวมถึงพระเครื่องและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทำอาชีพเลี่ยมกรอบพระและสิ่งของต่างๆ แม้แต่เอกสารสำคัญถูกไฟไหม้จนหมดตัว ตอนเกิดเหตุตนออกไปทำงาน มีคนโทรมาบอก ตอนโทรไปไฟยังไม่ถึงบ้าน พอมาถึงก็ไหม้วอดทั้งหลังแล้ว

เช่นเดียวกับ นางลำจวน จันทร์อ่อน หนึ่งในบ้านพักที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังเช่นกัน บอกว่า ตนมีอาชีพเป็นแม้ค้าขายพัก ข้าวของเครื่องใช้ถูกไฟไหม้ เสื้อผ้า ที่นอน ถูกไฟไหม้จนหมด แถมเงินสดกว่าหกหมื่นบาทที่ขายผักได้ก็สะสมไว้ ตั้งใจจะเอาไปใช้หนี้สินที่หยิบยืมมา ตอนนี้ไม่เหลือเลย

ด้าน นายชอุ่ม แตงโสภา นายก อบต.บางโฉลง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ที่เกิดเหตุบ้านพักและห้องเช่าถูกไฟไหม้คร่าวๆ ประมาณ 10 หลัง ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่และกำนันได้สำรวจครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่วัดบางโฉลงใน พร้อมเร่งจัดหาเครื่องนุ่งห่มและที่นอนหมอนมุ้ง ส่วนอาหารทางอบต.จะดำเนินการเรื่องอาหารการกินให้กับผู้ประสบภัย

ส่วน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านพักของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร สันนิษฐานอาจมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดจะต้องรอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมทั้งกำชับพนักงานสอบสวนเชิญผู้เกี่ยวข้องและพยานไปสอบปากคำที่โรงพักอีกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป