เตือนใครใช้กระบอกน้ำ หากเจอ 6 ร่องรอย ควรเปลี่ยนใหม่ เสี่ยงพิษเข้าสู่ร่างกาย
เตือนสำหรับใครที่ใช้กระบอกน้ำ หากมี 6 ร่องรอยนี้ แนะควรเปลี่ยนใหม่ เสี่ยงพิษเข้าสู่ร่างกาย
1.ภายในตัวแก้วเกิดความเสียหาย อาจทำให้เครื่องดื่มในแก้วไม่สามารถรักษาอุณหภูมิได้นานตามต้องการ ส่งผลต่อรสชาติและความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีนมบางชนิด หากไม่เก็บที่อุณหภูมิคงที่ ก็อาจกลายเป็นสภาพแวดล้อมในอุดมคติที่แบคทีเรียอาศัยอยู่ได้
2.ขวดมีคราบสนิม แม้มีนิดเดียวก็เป็นสัญญาณให้คุณรู้ว่าถึงเวลาต้องหยุดใช้ และเปลี่ยนขวดใหม่ คราบสนิมไม่เพียงแต่ทำลายความสวยงามของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ที่สำคัญยังก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมากอีกด้วย
3.มีกลิ่นเหม็นหรือคราบสกปรกที่ทำความสะอาดได้ยาก เป็นสัญญาณเตือนว่าควรหยุดใช้กระบอกน้ำ เนื่องจากอาจมีแบคทีเรียเติบโตในกระบอกน้ำ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้เกิดอาหารเป็นพิษและทำลายสุขภาพของคุณได้
4.ฝาแก้วแตกหรือปิดไม่สนิท อาจทำให้เกิดสภาวะความชื้นสะสม เป็นเหตุให้แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้ได้
5.ขวดบิดเบี้ยวและมีรอยแตก อาจทำให้ชั้นของวัสดุภายในกระบอกน้ำแตกร้าว ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่งผลให้กระบอกน้ำเกิดความร้อนรั่ว และไม่มีความสามารถในการกักเก็บความร้อนได้อีกต่อไป อีกทั้งรอยแตกอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้ หากไม่อยากทำร้ายตัวเอง “ทิ้งของเก่า-ใช้ใหม่” ทันทีที่เห็นกระบอกน้ำหรือแก้วมีรอยบุบและแตกร้าว
6.กระบอกน้ำที่ใช้งานมานาน ผู้ใช้ควรเปลี่ยนใหม่ แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่ายังใช้งานได้ดีอยู่ก็ตาม เพราะเมื่อเวลาผ่านไป วัสดุภายในขวดอาจมีการเสื่อมสภาพ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือทำให้กระบอกน้ำเปราะและแตกหักง่าย
โดยอายุการใช้งานของกระบอกน้ำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัสดุและความถี่ในการใช้งาน ซึ่งปกติแล้ว คุณควรตรวจสอบและเปลี่ยนอันใหม่ หลังจากใช้งานไปประมาณ 2 – 5 ปี