วันที่ 28 พ.ย. 2567 สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา รายงานว่า ขณะนี้เกิดน้ำท่วมแล้ว 15 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ขณะนี้เหลือเพียงอำเภอเดียวที่น้ำยังไม่ท่วม คือ อ.กระแสสินธ์ุ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัด ได้แก่ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย อ.จะนะ และ อ.สะเดา

โดยเฉพาะ อ.เทพา มีปริมาณฝนตกสะสมมากที่สุดถึง 320 มม. โดยหนึ่งในพื้นที่ที่ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุด คือ ที่บ้านน้ำลัด หมู่ 6 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกที่รับน้ำจากเขาน้ำค้าง เนื่องจากถูกน้ำป่าไหลท่วมหมู่บ้านกว่า 100 ครัวเรือน กระแสน้ำไหลลงมาอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวและเคลื่อนย้ายสิ่งของไม่ทัน

นายวิเชษฐ์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา จ.สงขลา นำทีมทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร้อย ร.5021 ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ตำรวจภูธรสะเดา ตำรวจตระเวนชายแดน 437 และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนถูกน้ำท่วมบ้าน และช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเพื่อให้ความสูญเสียน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตำบลของ อ.สะเดา ที่มวลน้ำจะไหลผ่าน คือ ต.ทุ่งหมอ ต.ท่าโพธิ์ ต.ปริก ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว

ทางด้านอำเภอสะบ้าย้อยได้เกิดฝนตกสะสมตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ทุกตำบลของอำเภอสะบ้าย้อย น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านแลแบง ตำบลสะบ้าย้อย ได้มีมวลน้ำไหลเอ่อท่วมในพื้นที่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยทางอำเภอสะบ้าย้อย ได้นำกำลังพลกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอสะบ้าย้อย ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มราษฎรอาสาสมัครในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลสะบ้าย้อย เข้าให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในการเคลื่อนย้ายคน สัตว์เลี้ยง และสิ่งของ มายังสถานที่ปลอดภัยแล้ว

ในขณะที่อำเภอเมืองสงขลา นายอำเภอเมืองสงขลาเร่งลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา บริเวณห้าแยกบ้านน้ำกระจาย หมู่ที่ 2 ตำบลพะวง, หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 8 ตำบลเขารูปช้าง รวมถึงบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ควนหิน หมู่ที่ 3 ตำบลพะวง หลังจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเข้าท่วมไร่หลายพื้นที่