ด่วน! เกิดเหตุรถไฟ ชนรถโค้ชฟุตบอล
เฟซบุ๊กเพจ ข่าวเมืองชล รายงานว่า เมื่อเวลา 19:00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ร.ต.ท.รัชพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถเก๋ง บริเวณทางรถไฟ ภายในซอยเขาตาโล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา
ในที่เกิดเหตุพบประชาชนยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก โดยพบรถเก๋ง เอสยูวี ยี่ห้อ ซูซูกิ เออร์ติก้า สีแดง อยู่ในสภาพบี้แบน พังเสียหายทั้งคัน คาอยู่บนรางรถไฟ ถัดไป 50 เมตร พบหัวจักรรถไฟ เครื่องดีเซล จอดสงบนิ่ง ด้านหน้ามีร่องรอยการถูกชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย
นอกจากนี้ทีมกู้ภัยฯได้ทำการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นคนขับรถเก๋งเอสยูวี ทราบชื่อต่อมาคือนายไกรวิทย์ อายุ 36 ปี อาชีพโค้ชฟุตบอลอิสระ ปัจจุบันเป็นโค้ชสอนฟุตบอล ให้กับเยาวชนอะคาเดมี่ แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก มีแผลถลอกตามร่างกาย และยังอยู่ในอาการตกใจกลัว ทีมกู้ภัยจึงได้ทำการปฐมพยาบาล ก่อนจะนำตัวส่ง รพ.บางละมุง
นายไกรวิทย์ หิรัญเอื้อวรากุล เล่านาทีระทึกขวัญให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถกลับที่พัก พอมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดข้ามทางรถไฟ ในขณะนั้นการจราจรติดขัดอย่างหนัก และเคลื่อนตัวได้ช้า ในระหว่างที่ตนขับรถจะข้ามทางรถไฟ ปรากฏว่าสัญญาณไม้กัน ได้ลดตัวลงมา นาทีนั้นตนเองพยายามจะขับรถ เดินหน้า-ถอยหลัง ออกจากทางรถไฟ แต่ก็ไปไม่ได้เพราะรถติดมาก พยายามบีบแตร ให้รถคันหน้าเดินหน้า แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้าย ก็ได้ยินเสียง รถไฟกดออด ส่งสัญญาณเตือน เสียงดังสนั่น ในขณะนั้นตนเองยอมรับต้องถูกรถไฟพุ่งชนแน่ๆ จะยอมสละทิ้งรถดีหรือไม่ จนเสี้ยววินาทีสุดท้าย ตนเองตัดสินใจหักพวงมาลัยไปทางด้านขวา เพื่อให้รถไฟพุ่งชนจากทางด้านท้าย ก่อนที่จะถูกรถไฟพุ่งชน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว และรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์
นายธวัชชัย อายุ 39 ปี คนขับรถไฟ เล่าว่า ตนเองกำลังขับรถไฟเดินทางไฟ จ.ระยอง พอมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถเก๋งจอดขวางอยู่บนทางรถไฟ ตอนนั้นตนเองได้กดออดส่งสัญญาณเตือนหลายครั้ง พร้อมทั้ง พยายามเบรกอย่างเต็มกำลัง แต่ก็เบรคไม่อยู่ จนพุ่งชนรถเก๋งอย่างดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจได้ทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะเรียกฝ่ายผู้ได้รับบาดเจ็บและฝ่ายคนขับรถไฟมาทำการสอบสวน จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป