วันที่ 19 พฤศจิกายน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ศปช. ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะช่วงวันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น และให้จัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอด 24 ชม.

นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมทั้งติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

ภาคเหนือหลายจังหวัดยังมีอากาศหนาวต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องติดตามพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ ดังนี้ จ.พัทลุง อ.เมืองพัทลุง ศรีบรรพต ควนขนุน ตะโหมด ศรีนครินทร์ เขาชัยสน กงหรา บางแก้ว ป่าพะยอม, จ.นครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช ร่อนพิบูลย์ ปากพนัง พระพรหม, จ.ตรัง อ.เมืองตรัง ห้วยยอด ย่านตาขาว นาโยง ปะเหลียน, จ.ปัตตานี อ.สายบุรี หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1567

นายจิรายุ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ศปช. ได้ติดตามพายุโซนร้อนกำลังแรงหม่านหยี่ (MAN-YI) ซึ่งขณะนี้ยังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน และกำลังเคลื่อนตัวทางด้านตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะอ่อนกำลังลงตามลำดับเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ซึ่งพายุนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย