เสียชื่อจังหวัด โซเชียลจวกแรง หนุ่มกร่างเตะคนเต้นหน้าเวทีหมอลำ

เสียชื่อจังหวัด โซเชียลจวกแรง หนุ่มกร่างเตะคนเต้นหน้าเวทีหมอลำ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.67 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายอำพล ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยมี พ.ต.อ.วีระ หางนาค รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ , พ.ต.ท.มังกร ชมจิตร รอง ผกก.สอบสวนฯ , พ.ต.ท.เศรษฐศักดิ์ ศรีดี รอง ผกก.สส.ฯ , ร.ต.อ.อารมณ์ เจริญสรรพ์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมสอบถามถึงข้อเท็จจริง ถึงการก่อเหตุดังกล่าว เพื่อทราบถึงมูลเหตุจูงใจในการกระทำความผิด และยังตรวจปัสสาวะเบื้องต้นหาสารเสพติด ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในตัวอย่างปัสสาวะ

โดย พ.ต.อ.วีระ หางนาค รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้สอบปากคำผู้ต้องหาและแจ้งกับผู้ต้องหาว่า การกระทำเช่นนี้มันผิดกฎหมาย หากผู้ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บหนักก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายหนัก เป็นภาระของครอบครัว และยังผิดกฎหมาย จึงจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และอย่าหาทำแบบนี้อีกเป็นอันขาด และจะให้พนักงานสอบสวนไปค้นดูที่บ้านว่ามีอาวุธปืนหรือสิ่งของผิดกฎหมายที่บ้านด้วย

ด้านนายต่าย ผู้ก่อเหตุ สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงเนื่องจากเมา และไม่เคยรู้จักกับคนที่ไปทำร้ายเขามาก่อน ตอนนี้สร่างเมาสำนึกผิดแล้ว และจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก จึงขอโทษผู้บาดเจ็บและชาวโซเชียลด้วยที่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชน

โดยตำรวจเจ้าของคดีให้ข้อมูลมาว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ทางผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุจะได้นัดเจรจากัน หลังจากนั้นหากผลใบรับรองแพทย์ออกก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนการแจ้งข้อหาว่าจะแจ้งเป็นทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บนั้นก็จะต้องดูรายละเอียดในใบรับรองแพทย์ก่อน หากทำร้ายร่างกาย ก็จะเสียค่าปรับ 500 บาท และต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายด้วย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ถือได้ว่าสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาพลักษณ์เรื่องของความปลอดภัย ชาวเน็ตหลายคนต่างคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นแบบอย่างไม่ดีแก่สังคม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ