ตำรวจลุยตรวจ หลวงพี่ กางเต็นท์นอนหน้าสถานีขนส่ง ลั่นไม่อยากจำวัด เข้ากับใครไม่ได้
วันที่ 7 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านร้องเรียน ว่าพบพระสงฆ์รูปหนึ่งมีพฤติกรรมแปลกๆ วัดมีไม่อยู่ กลับมากางเต็นท์ที่พัก อยู่บริเวณตรงข้ามหน้าสถานีขนส่งเทศบาลเมืองจันทบุรี ตอนกลางคืนสวม นุ่งกางเกงสวมใส่เสื้อผ้าเหมือนคนปกติ ตอนเช้าห่มเหลือง ออกบิณฑบาต เกรงว่าจะเป็นพระปลอม
ทางด้านเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลเมืองจันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บริเวณศาลาที่พักผู้โดยสาร ฝั่งตรงข้ามสถานีเดินรถขนส่งผู้โดยสาร พบเต็นท์ที่พักสีขาวกางอยู่ริมรั้วสนามกีฬากลางจังหวัด ผูกด้วยผ้าใบพลาสติกสีฟ้าคลุมไว้บังแดด นอกจากนี้ยังพบมีการผูกเชือกทำราวตากจีวร ผูกมัดติดอยู่กับต้นไม้ แต่ไม่พบพระสงฆ์ตามที่ได้รับแจ้ง จึงเดินเข้าไปตรวจสอบ
พบพระสงฆ์วัยกลางคนรูปหนึ่ง เปิดผ้าออกมาจากเต็นท์ ในสภาพนุ่งสบง สวมอังสะ ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอทำการตรวจสอบหนังสือสุทธิประจำตัว และขอตรวจค้นภายในเต็นท์ที่พัก เบื้องต้นพบว่า เป็นหนังสือสุทธิบัตรสงฆ์ตัวจริง ระบุชื่อ พระกันต์ธร ยาติกาโร เป็นพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน ใน อ.บ่อไร่ จ.ตราด จากการตรวจสอบในเต็นท์ที่พักพบมี บาตรพระ อัฐบริขาร ของใช้จำเป็นเบื้องต้น ตลอดจน น้ำดื่ม ผัก อาหาร ที่ได้จากการบิณฑบาต ไม่พบมีเสื้อผ้า ตามที่ได้รับแจ้ง
พระรูปดังกล่าว อ้างว่าเดิมเป็นคน จ.จันทบุรี แต่ไปบวชจำพรรษาที่ จ.ตราด หลังออกพรรษาหมดช่วงทอดกฐิน ได้เดินทางออกจากวัด กำลังจะเดินทางไปที่ จ.ชัยภูมิ โดยได้มาแวะพักกางเต็นท์นอนจำวัด อยู่หน้าสถานีขนส่ง ได้ประมาณ 3-4 วัน ไม่อยากไปจำวัดอยู่ที่วัดใกล้เคียง เนื่องจากปฏิบัติธรรมเข้ากับใครไม่ได้ และการกางเต็นท์พักนอนนอกวัด ไม่ผิดวินัยสงฆ์
นอกจากนี้ยังเห็นว่าคนเร่ร่อน และวินรถรับจ้าง ยังสามารถหาที่นอนพักแถวนี้ได้ พระสงฆ์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนเรื่องที่มีชาวบ้านไปร้องเรียนแจ้งเจ้าหน้าที่ ว่ากลางคืนสวมเสื้อผ้า ตอนเช้าใส่จีวรออกบิณฑบาต ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนเป็นพระที่เคร่งปฏิบัติ ไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียพระพุทธศาสนา
เบื้องต้นจึงนิมนต์ให้พระสงฆ์รูปดังกล่าว ไปจำวัดในเขตเทศบาล ระหว่างรอการเดินทาง เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหานินทาต่อไป