โอบามา ชี้ ปัญหาทั่วโลกเกิดจาก ชายสูงวัยที่ไม่ปล่อยวางอำนาจ

โอบามา ชี้ ปัญหาทั่วโลกเกิดจาก ชายสูงวัยที่ไม่ปล่อยวางอำนาจ

สำหรับเรื่องราวดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาทั่วโลก ไม่ได้ชี้นำ ชักพา สื่อถึงการเมืองไทยแต่อย่างใด หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ ปัญหาทั่วโลกเกิดจาก ชายสูงวัยที่ไม่ปล่อยวางอำนาจ และกล่าวชื่นชมว่าผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำที่ดีกว่าผู้ชาย บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นกล่าวขณะร่วมงานด้านภาวะผู้นำที่จัดขึ้นโดย The Growth Faculty ในสิงคโปร์ โดยเป็นการร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์ด้านความเป็นผู้นำ รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ซึ่งในงานนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังหลายพันคน ช่วงหนึ่งของการแชร์ประสบการณ์บนเวทีโอบามากล่าวว่า

ผู้หญิงไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชาย พร้อมระบุด้วยว่าเขามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ถ้าหากผู้หญิงสามารถขึ้นเป็นผู้นำของทุกประเทศในระยะเวลาประมาณ 2 ปี เราจะได้เห็นการพัฒนาในภาพรวมของทั้งประเด็นคุณภาพชีวิตและผลลัพธ์ต่างๆ มากมายอย่างชัดเจนแน่นอน นอกจากนั้นเด็กๆ ก็จะได้รับการดูและที่ดีกว่านี้ สุภาพสตรีทั้งหลาย ผมอยากจะบอกว่า ผมรู้ดีว่าพวกคุณไม่เพอร์เฟ็กต์ แต่ผมพูดได้อย่างไม่มีใครโต้แย้งได้เลยว่าพวกคุณเก่งกว่าพวกเรา

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองว่าเขายังอยากจะกลับไปทำงานทางการเมืองหรือเป็นผู้นำอีกหรือไม่ โอบามาตอบอย่าชัดเจนว่า เขาเชื่อว่า บรรดาผู้นำทั้งหลายควรจะถอยออกมาเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง พร้อมทั้งระบุอีกด้วยว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้มีสาเหตุมาจากคนรุ่นเก่า

โดยส่วนใหญ่คือ กลุ่มชายสูงวัยที่ไม่ยอมปล่อยวางจากตำแหน่งและอำนาจ เป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้นำทางการเมืองจะต้องคอยเตือนตัวเองว่าคุณเข้ามาเพื่อทำงาน คุณไม่ได้เข้ามาเพื่ออยู่ตลอดไป คุณไม่ได้เข้ามาเพื่อเสริมสร้างความสำคัญหรือสร้างอำนาจให้ตัวเอง ทั้งนี้ โอบามาได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ 2 สมัย ระหว่างปี 2009ถึง2017 และหลังจากลงจากตำแหน่ง เขาและมิเชล โอบามา ก็ได้จัดตั้งมูลนิธิร่วมกันเพื่อส่งเสริมและให้คำปรึกษา ผู้นำรุ่นใหม่ ทั่วโลกอีกด้วย

ทั้งนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทั่วโลกเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองไทยแต่อย่างใด โปรดอ่านข่าวอย่างมีสติ

ขอบคุณ sanook

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ