วันที่ 23 ตุลาคม 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้จับกุม น.ส.วรนุช อายุ 25 ปี ชาวอ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผู้เสียหายทำงานอยู่ที่คลินิค วันหนึ่งมีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ติดต่อมาว่าจะได้รับเงินภาษีคืนจากกรมที่ดิน จึงแนะนำให้ผู้เสียหายแอดไลน์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ และภาพไลน์ที่แอดไป ระบุว่าเป็นไลน์ของกรมที่ดิน มีข้อความตอบกลับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนออนไลน์ และโทรเข้ามาหลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอพพลิเคชั่นกรมที่ดินผ่านโทรศัพท์มือถือ เมื่อติดตั้งแล้ว แนะนำให้ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนในระบบ ตลอดการพูดคุยมีการประวิงเวลา เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายวางสายและออกจากแอพ

จากนั้นผู้เสียหายเริ่มสงสัย และไม่ขอทำธุรกรรมต่อ จึงออกจากระบบ เมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินจากโมบายแบงกิ้งธนาคารหนึ่งที่ผูกกับบัญชีบัตรไว้ เงินทั้งหมดถูกโอนออกจากบัญชีไปยังบัญชีบุคคลอื่นจำนวน 6,300,000 บาท จึงรีบติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีปลายทาง และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเมื่อประมาณปี 2566 มีเพื่อนติดต่อชักชวนให้ไปเปิดบัญชีด้วยกัน โดยจะได้รับค่าตอบเเทนในการเปิดบัญชีครั้งละ 500 บาท/ต่อครั้ง จึงเปิดบัญชีไปทั้งสิ้น 3 บัญชี โดยกลุ่มเพื่อนได้บอกว่าจะนำบัญชีไปลงทุน และจะได้รับผลตอบแทนในภายหลัง

เเละนำเงินค่าจ้างดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก่อนจะถูกจับกุมครั้งนี้ ถูกจับกุมดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้วถึง 2 คดี และเพิ่งถูกปล่อยตัวมาเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นจึงทำบันทึกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป