จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถพยาบาลบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เป็นเหตุการณ์ที่รถเก๋ง โตโยต้า CH-R สีขาว ขับปาดหน้ารถพยาบาลพร้อมทั้งเบรกกะทันหันเหมือนจงใจให้ชนท้ายถึง 2 ครั้ง ทั้งที่ถนนโล่งไม่มีรถคันอื่นๆ ซึ่งหากจะแซงก็สามารถแซงขึ้นไปได้ง่ายๆ โดยระบุข้อความว่า

ขออนุญาตประกาศตามหา รถคันนี้หน่อยนะครับ เหตุการณ์ วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ช่วงเวลา 03:05 น. - 03:10 น. รถพยาบาล TNB AMBULANCE พร้อมคนไข้ในรถและรถญาติขับตามหลังมา กำลังรีเฟอร์คนไข้จากจังหวัดขอนแก่นไปที่จังหวัดชลบุรี พอมาถึงช่วงประตูน้ำขาออกขอนแก่น มิตรภาพมุ่งหน้าโคราช ได้มีรถยนต์ Toyota CH-R ขับรถปาดหน้ารถพยาบาลถึง 2 ครั้ง (รอบที่ 1) ขับแซงซ้ายและปาดขวาเข้ามา และเบรกกะทันหันทั้งๆที่ถนนโล่ง จนเกือบทำให้รถพยาบาลเฉี่ยวชน (รอบที่ 2) ขับอยู่เลนขวาแล้วปาดซ้ายเข้ามา และเบรกกะทันหันอีกรอบนี้อีกนิดเดียวจะชน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันอันตรายต่อบุคลากรที่อยู่บนรถพยาบาลมากๆนะครับ ผมไม่รู้ว่าพี่มีปัญหาอะไรกับรถพยาบาล หรือ พี่ขัดข้องใจอะไรหรือเปล่า ซึ่งทำให้คนไข้ในรถพร้อมพยาบาลและญาติไม่สบายใจอย่างมากครับ ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ตามหาคุณพี่สุดหล่อหน่อยนะครับ ปล.ถ้าบนรถเป็นพ่อแม่พี่สุดหล่อ พี่ก็คงไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้แน่นอนครับผม

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์โพสต์คลิปลงในโซเชียลมีชาวเน็ตแชร์ต่อออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่ารถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวต้องการอะไรจากสังคม หรือจากจะไปนอนแทนผู้ป่วยในรถพยาบาล และหลายๆคนต้องการให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะพฤติกรรมดังกล่าวหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอาจจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายมากกว่าเดิมจนอาจกลายเป็นเหตุสลด

ทั้งนี้ ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว คือ นายพุฒิเมธ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ขับรถพยาบาลของบริษัทเอกชน เล่าว่า เหตุการณ์ตอนเกิดเหตุนั้น เริ่มจากช่วงเลย 4 แยกเจริญศรีมา โดยตนเองได้รับผู้ป่วยจากโรงพยายบาลขอนแก่น จะไปส่งผู้ป่วยที่ จ.ชลบุรี ภายหลังทางญาติประสงค์รับกลับไปดูแลต่อที่บ้าน พร้อมทั้งได้ใส่เครื่องช่วยหายใจด้วย

ระหว่างทางขับมาตามปกติเพราะมีรถญาติผู้ป่วยขับตามหลังมาอีก 2 คัน จู่ๆคนขับรถเก๋งในคลิปก็ขับแซงขึ้นมาจากฝั่งซ้าย แล้วปาดขวาเข้ามาเบรกกะทันหันเหมือนพยายามจะให้จอด ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเก๋งสีขาวคันดังกล่าวต้องการอะไร ให้จอดทำไม หรือมีเรื่องด่วนอะไร ตนเองจึงเบี่ยงซ้ายออกไปแล้วขับไปปกติ แต่ขับไปต่อได้ประมาณ 1 กม. เก๋งสีขาวคันเดิมขับตามมาปาดหน้าอีกครั้ง จากทางฝั่งขวา แล้วเบรกกะทันหันจนรถพยาบาลเกือบจะชนท้าย ซึ่งทั้งสองรอบขับมาปาดหน้าแล้วเบรกจอดกลางถนนทั้ง 2 รอบ และไม่ได้โบกให้จอดหรือส่งสัญญาณอะไร

ซึ่งขณะนั้นถนนโล่งไม่มีรถ สามารถแซงได้ ปกติตนเองจะขับแต่เลนขวาเพื่อไม่ให้รถโยกหรือเหวี่ยงข้ามเลนไปมา เพราะมีผู้ป่วยอยู่หลังรถ เวลาพยาบาลทำหัตถการที่หลังรถอาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งญาติผู้ป่วยที่ขับตามมาก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนขับรถเก๋งสีขาวจึงขับในลักษณะนี้ สอบถามญาติผู้ป่วยก็บอกว่าไม่ใช้รถญาติ แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้มีใครเปิดกระจกออกมาพูดหรือเรียกร้องอะไร

ซึ่งการขับรถในลักษณะนี้ นอกจากเสี่งการเกิดอันตรายหลายๆด้านแล้ว แม้ว่าไม่ชขนแต่การทำให้รถพยาบาลเกิดการขับเบี่ยงไปมาก็จะส่งผลให้ผู้ป่วยในรถเมารถได้ เพราะมีการให้ยาระหว่างทางที่ต้องใช้การขับรถที่ต้องนิ่ง รวมทั้งทำให้พยาบาลบนรถที่ทำหัตถการและดูแลคนไข้ไม่สามารถดูแลได้อย่างปลอดภัยเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ตนเองทำงานขับรถพยาบาลมาครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจอ อยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนถ้าเห็นรถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน ขอให้หลบให้กับรถพยาบาลสักหน่อย หรือ อย่าขับจี้ขับตามมากเกินไป เพราะบางครั้งรถพยาบาลอาจมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องจอด ณ ตรงนั้นทันที อาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้

ส่วนการแจ้งความในเรื่องดังกล่าวนั้นต้องรอคุยกับทางญาติอีกครั้ง แต่ส่วนตัวไม่อยากมีปัญหาหรือให้เรื่องยืดเยื้อ แต่โดยรวมอยากฝากถึงคนขับรถเก๋งว่า คิดอะไรทำไมจึงมาทำพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น รวมทั้งคนใช้รถใช้ถนนอย่างมาก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็จะทำให้เสียเวลาไปอีก และอาจทำให้ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจในรถเกิดอันตรายขึ้นได้ คนขับรถเก๋งเองก็คงจะรับผิดชอบไม่ไหว