ตำรวจยังไม่ออกหมายจับ บอส-ดารา ผู้ต้องหาดิไอคอน
วันที่ 13 ต.ค.2567 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้ากรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากผ่านมา 4 วันมีผู้มาแจ้งความแล้ว 740 ราย รวมความเสียหายดประมาณ 266 ล้านบาทนั้น โดยในส่วนของผู้ต้องหาอยู่ในกลุ่มผู้บริหารและดารานักแสดง ส่วนการกระทำความผิดจะเข้าข้อหาไหนนั้น ต้องมีการประมวลจากพยานหลักฐานที่มีการตรวจเมื่อวานรวมทั้งข้อมูลพยานบุคคล
เมื่อถามว่าตอนนี้เข้าข่ายฐานความผิดฉ้อโกงประชาชนหรือยัง รอง ผบช.ก. บอกว่า ในส่วนนี้คณะพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ ดูเพื่อความรอบคอบและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้สำหรับบอสพอลและดารานักแสดงนั้น ตกเป็นผู้ต้องหาและตำรวจมีการสอบปากคำไว้ในฐานะผู้ต้องหา
เมื่อถามอีกว่าการชี้แจงของผู้ต้องหาที่มาให้การเป็นไปในทิศทางใด รอง ผบช.ก. บอกว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหา และเป็นความลับในสำนวนการไต่สวน แต่ผู้ต้องหาส่วนใหญ่บอกว่าจะชี้แจงเพิ่มเติม และให้การเพิ่มเติม โดยจะมีการชี้แจงเป็นเอกสารมาหลังจากนี้
เมื่อถามว่าคดีจะต้องไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)หรือไม่ รอง ผบช.ก. บอกว่า จริงๆถือว่าเข้าหลักเกณฑ์การทำคดีของดีเอสไอแล้ว ซึง่ตอนนี้ดีเอสไอก็ได้ดำเนินการคู่ขนานและมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการทำงานร่วมกัน หากในอนาคตสำนวนจะต้องไปตกอยู่ที่หน่วยงานใดก็มีความพร้อมและจะไม่กระทบรูปคดีและไม่กระทำกับประชาชน
เมื่อถามว่าในส่วนของแม่ข่ายบางคนมีข่าวว่าเป็นตำรวจด้วยในการสืบสวนสอบสวนพบคนที่เป็นตำรวจหรือไม่ รอง ผบช.ก. บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ปรากฎ แต่ตามนโยบาย ผบ.ตร. กรณีตำรวจที่ประพฤติไม่เหมาะสมเก็ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งทางวินัยและทางอาญา ส่วนกรณีมีผู้เสียหายอยู่ต่างประเทศนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่สามารถให้ข้อมูลมาได้ หรือมอบอำนาจได้
เมื่อถามถึงกรณีที่เขาตกเป็นผู้ต้องหาแล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่มีการดำเนินการออกหมายขัง ตามประมวลวิธีพิจารณาความกฎหมายอาญามาตรา 134 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ชี้แจงว่า ตอนนี้เราฟังถ้อยคำจากพยานบุคคลอย่างเดียวอยู่ ส่วนพยานหลักฐานอื่นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และยังมีพยานบุคคลเข้ามาเรื่อยๆ ข้อเท็จจริงเรื่องความเสียหายก็ยังไม่ได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่าเรื่องการปล่อยตัวไปจะมีปัญหาเรื่องการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่นั้น พล.ต.ต.มนตรี บอกว่า ตอนนี้กระบวนการเรายังอยู่ในขั้นตอนตามตามประมวลวิธีพิจารณาความกฎหมายอาญามาตรา 134 ซึ่งพนักงานสอบสวนรับฟังผู้กล่าวหาก่อน แล้วก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะนำไปสู่กระบวนการต่อไป ไม่ใช่ใครถูกกล่าวหาแล้วต้องพาตัวไปฝากขังเลย เพราะหน้าที่พนักงานสอบสวนจะต้องพิสูจน์ความผิดและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย
เมื่อถามว่ากรณีจะถูกออกหมายจับในภายหลังหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี บอกว่า เงื่อนไขในการออกหมายจับก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่ง ส่วนความคืบหน้าเรื่องการออกหมายจับนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบโดยต้องรับฟังพยานหลักฐานทุกส่วนก่อน