เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา นางเอ(นามสมมติ) อายุ 52 ปี และ น.ส.บี(นามสมมติ) อายุ 23 ปี ลูกสาวของนางเอ ชาวบ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าถูกนายกั๊ก อายุ 23 ปี เป็นเพื่อนบ้าน บุกเข้ามาที่บ้านพร้อมมีด ลักษณะคล้ายต้องการที่จะทำร้ายร่างกาย โดยทั้ง 2 แม่ลูกได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐาน

น.ส.บี เล่าว่าวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลาสองทุ่มเศษ ตนกำลังนอนดูทีวีอยู่ชั้นล่าง จากนั้นได้ยินคนโวยวายเสียงดังและหมาเห่า จึงมาส่องที่หน้าต่างเห็นผู้ชายวิ่งมา ตนตกใจรีบวิ่งไปเรียกแม่ให้ขึ้นไปหลบที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพังประตูเข้ามา เดินหาแม่ของตนพร้อมทั้งโวยวายไปด้วย

ตนและแม่ตกใจมากหลบอยู่ในห้องชั้น 2 ของบ้านไม่กล้าออกมา ส่วนตัวคิดว่าชายคนนี้เมื่อเข้ามาได้คงจะทำร้ายคนในบ้านถึงขั้นเสียชีวิตเพราะในมือมีมีด หลังเกิดเหตุนั้นตนวางแผนกับคุณแม่ว่าจะทำประตูเหล็กประตูบ้านใหม่ให้แน่นหนามากกว่าเดิม ทั้งนี้แม่ก็บอกว่าจากนี้คงจะต้องหาอาวุธปืนมารักษาชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้านพร้อมเอาเรื่องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ขณะที่นางเอเล่าว่าชายผู้ก่อเหตุนั้นเป็นเพื่อนบ้านกัน และเคยบวชเป็นเณรอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งตนเคยไปทำบุญอยู่บ่อยๆ ตนไม่เคยมีปัญหาหรือยุ่งเกี่ยวกับเขา แต่เมื่อเขาสึกกลับมาอยู่บ้าน หลายครั้งเวลาที่ตนทำกับข้าวหรือตากผ้าอยู่หลังบ้าน หากเขาได้ยินเสียงตนก็จะร้องพูดออกมาว่าเพชรจ๋าขอหอมหน่อย บางทีก็พูดขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย เขาก็พูดแบบนี้อยู่นานและหลายครั้ง ตนก็พูดเตือนไปดีๆ ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น แต่เขาก็ยังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ตลอด พอเตือนบ่อยๆ นายกั๊กก็ด่าตนกลับ มีครั้งหนึ่งตนทนไม่ไหวก็เคยด่าเขากลับไปเหมือนกัน

ส่วนสาเหตุที่นายกั๊กบุกเข้าบ้าน เชื่อว่าเขาคลั่งรัก เขาเคยบอกว่า เขารักอยากหอมอยากจูบ ตนก็บอกไปแล้วมันเป็นไปไม่ได้รุ่นแม่รุ่นลูกเลย เราเอ็นดูเขาตั้งแต่เป็นเณรเหมือนลูกเหมือนหลานไม่ได้คิดเชิงชู้สาวเลย

เมื่อนายกั๊กรู้ว่าตนไม่ตอบรับรัก จากนั้นเมื่อเจอหน้ากันก็จะด่ากันตลอด นายกั๊กเคยบุกมาในบ้านตน 4 ครั้งแล้ว ซึ่งตนก็ท้าทายว่าหากกลับอีกมึงกับกูต้องตายกันไปข้างนึง พอเขาบุกรุกบ้านหลายครั้ง ตนก็ไปแจ้งความเขาถูกดำเนินคดี เพิ่งออกคุกมาได้แค่เดือน กระทั่งล่าสุดก็ก่อเหตุอีกโดยมีอาวุธมีดมาด้วย

ความรู้สึกตอนนี้ให้พูดตรงๆ ก็ถึงขั้นอยากเอาชีวิตให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เพราะวันนั้นถ้าลูกสาวหนีไม่ทันก็คงถูกฟันเจ็บหรือเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวแล้วตัวไม่กลัวแต่เป็นห่วงลูกมากกว่า ตอนนี้ติดต่อซื้อปืนแล้วและกำลังจะขอใบอนุญาต หากนายกั๊กกลับมาและปีนบ้านอีก ตนก็อาจจะยิงให้ตาย ตอนนี้นายกกั๊กถูกจับกุมไปแล้วหวังว่ากระบวนการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด

ด้านนางคำจัน อายุ 55 ปี แม่นายกั๊ก เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงเป็นแบบนั้น เวลาลูกชายอยู่บ้านก็เป็นคนปกติ แต่ยอมรับว่ามีอาการคลุ้มคลั่งและเครียดเวลาดื่มเหล้า ลูกชายเคยบอกให้ตนพาไปหาหมออ้างว่าเป็นโรคซึมเศร้า

ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยบวชเป็นเณรมา 3 ปี จากนั้นก็ทำการสึกออกมาเนื่องจากทนเห็นพฤติกรรมของเจ้าอาวาสที่ประพฤติผิดวินัยไม่ไหวชอบดื่มเหล้าเบียร์ตอนกลางคืน พอสึกออกมาก็ทำงานโรงน้ำแข็งและก็รับจ้างทั่วไป สำหรับเหตุการณ์ที่ลูกบุกปีนบ้านเพื่อนบ้านนั้นส่วนตัวตนก็เสียใจที่ลูกทำไปแบบนั้น

ส่วนเรื่องที่ลูกใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับผู้เสียหายนั้นตนเคยได้ยินอยู่บ้าง และได้ตักเตือนลูกไป ฝั่งลูกเคยบอกว่าแอบชอบผู้เสียหายมาตั้งแต่ตอนบวชเป็นเณร เพราะเห็นว่าเป็นคนดี คนแถวบ้านไม่ค่อยมีคนดี ยอมรับว่าลูกชายมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตอนนี้ลูกเข้ากระบวนการตามกฎหมาย หากลูกผิดก็ขอให้เจ้าหน้าที่ลงโทษ ตนจะไม่เข้าข้างลูกแน่นอน