เครียดกันทั้งบ้าน กดเงินหมื่นไม่ได้ ปรึกษาทนาย เจอค่าดำเนินการ 8,000

เครียดกันทั้งบ้าน กดเงินหมื่นไม่ได้ ปรึกษาทนาย เจอค่าดำเนินการ 8,000

วันที่ 11 ต.ค. 2567 จากกรณีที่ นางพรชนก พรหมโคกกลาง อายุ 44 ปี บุตรของนายประมูล วินทะชัย อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง จะ ไปกดเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มาใช้จ่ายในครอบครัว แต่กดเงินไม่ได้เนื่องจาก ATM ของพ่อหมดอายุมาแล้ว 2 เดือน จึงเดินทางไปยังธนาคารออมสิน สาขาสี่แยกโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่ง พ่อเปิดบัญชีไว้ แต่ธนาคารบอกว่า ไม่สามารถจะทำบัตร ATM ใหม่ให้ได้ เพราะเจ้าตัวต้องมาเซ็นด้วยตัวเอง

ตนจึงบอกว่าพ่อนอนป่วยติดเตียงไม่สามารถเซ็นหรือพูดเป็นสำเนียงได้เลย ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าสิ่งที่จะทำได้ก็คือ ทายาทต้องไปยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งออกมา จึงจะดำเนินการให้ ได้

จากนั้นตนไปสอบเจ้าหน้าที่ที่ศาล ทราบว่าไม่สามารถยื่นเรื่องขอคำสั่งศาลด้วยตัวเองได้ จะต้อง ให้ทนายความเป็นคนยื่นเรื่อง และดำเนินการ รวมทั้งต้องนำทายาททุกคนมาร่วมลงชื่อด้วย ตนจึงได้บอกพี่น้อง อีก 2 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 1 คน ทำงานอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องลางาน รีบซื้อตั๋วรถทัวร์ เดินทางกลับร้อยเดใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมง

เมื่อไปสอบถามทนายความ ทนายคนแรกบอกว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 6,000 บาท จึงยังไม่ตัดสินใจ ไปถามทนายคนที่ 2 จะมีค่าใช้จ่าย 8,000 บาท ตอนแรกคิดว่าจะตัดสินใจจ้างทนาย เพราะลำบากมากแล้ว แม้จะจ่ายไป 8,000 ยังเหลือบ้าง 2,000 บาท แต่คิดดูอีกที เราต้องควักเงินสดจ่ายทนายจำนวน 8,000 บาท และไม่รู้ว่าจะเบิกเงินหมื่นได้เมื่อไหร่ ได้จึงไม่ตกลง

ช่วงนั้นมีเพื่อนแนะนำว่าให้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตนก็ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมก็แจ้งให้ไปยื่นเรื่องกับยุติธรรมจังหวัด ตนก็ไปยุติธรรมจังหวัด สุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาล เรื่องที่เกิดขึ้นแค่พ่อเซ็นชื่อไม่ได้ ทำเอาลำบากทั้งครอบคนัวมากขนาดนี้หรือ หรือจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องกลับไปจ่ายค่าทนาย ไปถึง 8,000 บาท

ท้ายที่สุดมีคนแนะนำลองไปขอความช่วยเหลือ จากศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิ์ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ของคณะกรรมการอัยการภาคประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด โดยความร่วมมือ ของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด ก็ได้พบกับนายชานนท์ ลิขิตบัณฑูร ประธานคณะกรรมการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาสำนักงานอัยการภาค 4 และสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะประสานไปยัง พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด มาร่วมรับฟังเพื่อหาทางช่วยเหลือจากนั้นได้สอบถามไปยังทางธนาคาร ว่าจะมีทางออกแก่ประชาชนที่สะดวกรวดเร็ว

ต่อมานางปาริชาติ บุญมาศ ผู้จัดการธนาคารออมสินสาขาสี่แยกโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ก็ได้นำเจ้าหน้าที่ธนาคารลงพื้นที่ร่วมกับคณะอัยการคุ้มครองสิทธิ์ไปยังบ้านของของนายประมูล วินทะชัย พบว่านอนป่วยติดเตียงขยับร่างกายแขน ขา ลำบากลูกต้องคอยดูแลป้อนน้ำ อาหารให้ ผู้จัดกานธนาคารกล่าวอีกว่าก่อนหน้านี้ พบว่าลูกค้ารายดังกล่าวมีบัตร เอทีเอ็ม ซึ่งปกติก็กดเงินได้เลย ทีนี้ บัตรเอทีเอ็มดันหมดอายุ จึงกดเงินไม่ได้ ตามระเบียบถ้าจะทำบัตรใหม่ต้องให้เจ้าตัวไปเซ็นที่ธนาคาร แต่เจ้าตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียง และไม่สามารถเซ็นได้ ธนาคารจึงทำบัตรใหม่ให้ไม่ได้ เพราะมันเป็นระเบียบของธนาคาร จะต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล โดยทายาทต้อง ร้องไปยังศาลให้มีคำสั่งถึงธนาคาร จึงจะสามารถดำเนินการทางธุรกรรมให้ได้ ปัจจุบันทายาทซึ่งเป็นบุตรไปยื่นเรื่องขอเป็นผู้ดูแล ผู้บริบาลให้กับคุณพ่อแล้ว ฉะนั้นเงินส่วนนี้ซึ่งเป็นเงินพึงมีพึงได้จากเงินผู้สูงอายุจากผู้พิการ ก็จะเข้าบัญชีผู้ดูแล

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาแล้ว ตอนนี้ผู้ป่วยไม่สามารถเขียนลายมือชื่อได้ จำเป็นต้องพิมพ์ลายนิ้วมือแทน เพื่อเสนอเรื่องอนุมัติโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ดูแลต่อไป ทำเอาครอบครัวและลูกๆ ที่อึดอัดมาหลายวันโล่งอกและขอบคุณทางอัยการคุ้มครองสิทธิ์และคณะ รวมทั้งผู้จัดการธนาคารอออมสิน สาขาสี่แยกโรงพยาบาลร้อยเอ็ดที่ให้การช่วยเหลือจนจบด้วยดี ผู้ จัดการธนาคารออมสินกล่าวทิ้งท้ายว่า หากพี่น้องประชาชนท่านใดประสบปัญหาในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งไปยังธนาคารออมสินทุกสาขาใกล้บ้านซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารจะออกไปให้บริการถึงที่ เพื่อ ลดภาระและแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ