เมียสุดงง! ผัววัย 65 ปี ป่วยติดเตียง ได้เงินดิจิทัล 10,000 แต่ถอนไม่ได้ ธนาคารให้ไปตั้งผู้จัดการมรดก

เมียสุดงง! ผัววัย 65 ปี ป่วยติดเตียง ได้เงินดิจิทัล 10,000 แต่ถอนไม่ได้ ธนาคารให้ไปตั้งผู้จัดการมรดก

วันที่ 5 ต.ค. 2567 นางสมศรี อายุ 62 ปี ได้พาสามีที่ป่วยติดเตียงขึ้นรถยนต์เพื่อนบ้านเดินทางไปที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสมุดบัญชีเงินฝาก หลังทราบว่าสามีชื่อ นายสนิท อายุ 65 ปี สามีตนได้รับเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นจำนวน 10,000 บาท

โดยเพื่อนบ้านจะพาไปเบิกเงินดังกล่าวที่เข้าบัญชีของนายสนิทให้ เพื่อนำไปใช้จ่ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เนื่องจากเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานหลายปี โดยมี นางสมศรี ผู้เป็นภรรยาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา หวังนำเงินไปซื้อแพมเพิสผู้ใหญ่ และเครื่องยาที่จำเป็น

แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารอ้างว่าไม่สามารถทำธุรกรรมเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากลายเซ็นของนายสนิทไม่ตรงตามเอกสารที่เซ็นไว้ในการเปิดบัญชีก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ธนาคารแนะนำให้นางสมศรีกลับไปปรึกษาเพื่อตั้งผู้จัดการมรดกให้เรียบร้อยก่อน จึงจะนำเงินจำนวนดังกล่าวออกไปใช้ได้ตามปกติ

โดย นางสมศรี ได้ถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ให้สามีตนพิมพ์ลายนิ้วมือแทนลายเซ็นได้หรือไม่ เนื่องจากอาการเจ็บป่วยของสามีตนอาจทำให้การจับปากกาเซ็นลายมือคงไม่ถนัดเหมือนแต่ก่อน แต่ได้รับคำตอบยืนยันให้กลับไปตั้งผู้จัดการมรดกเช่นเคย และก็ไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไรเนื่องจากไม่มีความรู้ ประกอบกับตนไม่ได้มีเงินทองที่จะต้องไปขอคำปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้ทำเรื่องจัดตั้งผู้จัดการมรดกดังกล่าว

จึงอยากขอความเห็นใจผู้บริหารธนาคารออมสินสาขาดังกล่าว ช่วยให้สามีตนได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐในโครงการ นำไปใช้จ่ายสิ่งของจำเป็น ถึงแม้ว่าเงิน 10,000 บาทที่รัฐจัดให้นั้นอาจไม่มาก แต่สำหรับบคนหาเช้ากินค่ำอย่างตนนับว่ามากพอที่จะช่วยต่อชีวิตเลี้ยงปากท้องในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำได้มาก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ