หนุ่มขโมยกระเป๋า เจ้าของร้านชำ สารภาพเอาไปซื้อโทรศัพท์หวังรับเงินหมื่น
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายบุญเจริญ อายุ 41 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านหนองมะเขือ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ อดีตรปภ.บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปขโมยกระเป๋าเงินนางจินตนา อายุ 67 ปี อดีตพยาบาลที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และเป็นเจ้าของร้านค้าขายของชำในเขตเทศบาลประโคนชัย โดยใช้กลวิธีอ้างว่าเติมเงินโทรศัพท์จากตู้เติมเงินหน้าร้านไม่ได้ เพื่อหลอกให้เจ้าของร้านออกมาแล้วเข้าไปฉกเอากระเป๋าเงิน ซึ่งในนั้นมีเงินสดประมาณ 4-5 พันบาท บัตรประจำตัวประชาชน และล็อตเตอรี่อีกกว่า 10 ใบแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมาชุดสืบสวนได้แกะภาพจากกล้องวงจรปิด กระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือบุญเจริญ ก่อนจะนำกำลังเข้าไปควบคุมตัวที่บ้านพัก เบื้องต้นนายบุญเจริญ ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพวงจรปิดจริง
นายบุญเจริญ สารภาพต่อหน้าผกก. ว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะที่บ้านยากจน ตนเองเคยทำงานเป็น รปภ.อยู่กรุงเทพฯ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเงินไม่พอใช้ จึงย้อนกลับมาอยู่บ้านหวังหาอาชีพใหม่แต่ปรากฏว่าช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะมีเงินให้กับกลุ่มคนเปราะบางคือคนที่เคยได้บัตรคนจน หรือมีบัตรคนพิการอยู่แล้ว คนละ 10,000 บาทซึ่งในครอบครัวตนจะมีรายได้หลายหมื่นบาท แต่ขาดอย่างเดียวคือครอบครัวไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน ตามที่ได้ยินจากทางข่าวสาร และเกรงว่าอาจจะตกไปอยู่ขบวนสุดท้ายที่รัฐบาลจะโอนให้ในภายหลัง จึงมีความคิดที่อยากจะหาซื้อโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน ก่อนวางแผนขโมยเอาเงินร้านค้าดังกล่าว หลังได้เงินมาได้เอาเงินส่วนหนึ่งไปซื้อของกิน และที่สำคัญเอาไปซื้อโทรศัพท์ในราคา 3,800 บาทมาเพื่อจะลงทะเบียนให้ครบกระบวนการที่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขให้
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์ และจะต้องทำการสอบสวนในเชิงลึกอีกว่าเป็นกระบวนการหรือไม่ ตำรวจยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย