เขื่อนเจ้าพระยา เดินหน้าปล่อยน้ำ เตือน 11 จังหวัด เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสมทบ ทางศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า วันนี้เวลา 09.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,555 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 1,399 ลบ.ม./วินาที และยังตรึงการระบายน้ำ 1,400 ลบ.ม./วินาทีเป็นวันที่สาม ปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.54 เมตร/รทก. ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.46 เมตร/รทก. ระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 4.24 เมตร ทางเขื่อนเจ้าพระยาต้องเร่งระบายน้ำทางตอนบนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด
ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 50 ซม. ถึง 1.50 เมตร
ในช่วงนี้หากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำถึง 2,000 ลบ.ม./วินาที จะเอ่อท่วมพื้นที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.อยุธยา (แม่น้ำน้อย), คลองบางบาล จ.อยุธยา, คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
- ระบายน้ำ 2,000-2,200 ลบ.ม./วินาที จะเอ่อท่วมพื้นที่ วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง, อ.พรหมบุรี อ.เมือง อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
- ระบายน้ำ 2,200-2,400 ลบ.ม./วินาที จะเอ่อท่วมพื้นที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง, วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี, ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
- ระบายน้ำมากกว่า 2,400 ลบ.ม./วินาที จะเอ่อท่วมพื้นที่ ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง, ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี, บ้านท่าทราย อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
ส่วนปริมาณน้ำวิกฤติของเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,840 ลบ.ม./วินาที
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ กรมชลประทานก็ยังขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ในพื้นที่ 11 จังหวัดของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร ยังคงต้องเฝ้าติดตามและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด