วันที่ 2 กันยายน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งยังคงถูกน้ำท่วมกว่า 5 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีน้ำอิงซึ่งรับน้ำมาจากกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยาไหลผ่าน แต่ก็มีหลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เช่นที่พื้นที่อำเภอเทิง ซึ่งถูกน้ำท่วมมาร่วม 2 สัปดาห์ น้ำอิงลดระดับลงประมาณวันละ 10 ซม. ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 จ.เชียงราย นำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่หมู่บ้านที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง กล่าวว่า พื้นที่ อ.เทิง ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ใน 5 หมู่บ้าน 2 ตำบลคือ บ้านร่องขามป้อม ม.9 บ้านใหม่ ม.10 บ้านเวียงใต้ ม.15 ต.เวียง และบ้านหนองสามัคคี ม.4 บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม ส่วนพื้นที่อื่นน้ำได้ลดระดับลงไปหมดแล้ว ซึ่งทางอำเภอได้ประสานขอเครื่องสูบน้ำจาก ปภ.เขต 15 มาสูบน้ำออกจากชุมชนบ้านเวียงใต้ที่ยังท่วมขังให้ไหลลงไปแม่น้ำลาว เพราะที่บริเวณนี้บางจุดยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 1 ม. ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้ในอัตรา 50,000 ลูกบาศก์เมตร/นาที และหลังวันนี้ไปทางอำเภอจะงดรับบริจาคของบรรเทาทุกข์ จะไปมุ่งเน้นในเรื่องการความสะอาดและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบของทางราชการ

ทั้งนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมา ประกอบกับในพื้นที่ต้นน้ำ ทั้งแม่น้ำหงาว แม่น้ำลาว ไม่มีมวลน้ำมาเพิ่ม ส่วนฝั่งกว๊านพะเยาซึ่งระบายน้ำลงมาแม่น้ำอิงวันละ 7 ล้าน ลบ.ม./วัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นระดับปกติ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำอิงมากนัก น้ำอิงลดระดับไปวันละประมาณ 10 ซม.

ส่วนในพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำอิง ได้แก่ อ.พญาเม็งราย อ.ขุนตาล และ อ.ขุนตาล พบว่าระดับน้ำก็ลดระดับลงเรื่อยๆแล้ว ทั้งที่ ต.เม็งราย ต.แม่ต๋ำ อ.พญาเม็งราย และ ต.ต้า ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล แต่ชุมชนที่จมน้ำ มีน้ำท่วมขัง กว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในช่วงวันที่ 1-6 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขณะเดียวกันจ.พะเยา มีมติปล่อยน้ำกว๊านเพิ่มจากวันละ 7 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็นวันละ 12 ล้าน ลบ.ม./วัน มวลน้ำน่าจะมาถึงเชียงรายในอีก 1-2 วัน ซึ่งจะทำให้น้ำอิงเพิ่มปริมาณขึ้นแต่คงไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา