จากกรณี นายรัชชานนท์ ชูวงษ์วาลย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอความช่วยเหลือให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงว่า เวลา 17.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณพื้นที่ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม

สาเหตุเกิดจาก ผู้มีอำนาจที่สนิทกับการไฟฟ้า ได้ลากจูงสายไฟจากบ้านตัวเองมาใช้อีกที่หนึ่ง ทำให้สายไฟเกิดชำรุด ร่วงมายังพื้นที่บ้านพาดกับต้นไม้ข้างบ้านผู้เสียชีวิต

โดยวันเกิดเหตุ ได้มีพายุเข้า ทำให้สายไฟร่วงจากต้นไม้ลงมา ผู้เสียชีวิตเห็นจึงหยิบยกขึ้นไปวางให้พ้นทาง เพราะเกรงจะเกิดอันตราย แต่กลับถูกไฟดูดจนหมดสติ แพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการช่วยเหลือ แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากนั้นเจ้าของสายไฟได้มาแอบตัดสายไฟ ระหว่างที่บุคคลในบ้านไปรวมกันที่โรงพยาบาล ซึ่งทีแรกบอกยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง จนคืนสุดท้ายในการบำเพ็ญกุศล ได้มาเจรจา แต่ไม่ยอมรับข้อเสนอ บอกไม่ใช่ความผิดของตน

ล่าสุดที่งานพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายไพชยนต์ มีรักษา อายุ 43 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟดูด พร้อมได้พูดคุยกับ นางแววดาว จันทร์กระจ่าง อายุ 37 ปี ภรรยา โดยเล่าว่า เมื่อคืนคู่กรณีเข้ามาคุย อ้างว่าขอให้เผาศพให้เสร็จก่อนค่อยมาคุยกัน ซึ่งหลายวันก่อนมีการตกลงกันที่โรงพัก แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงตัดสินใจว่า จะขอเก็บร่างสามีไว้ ไม่เผา เพื่อประท้วงแด่ความไม่ยุติธรรม

สำหรับสายไฟที่เข้าใจว่าเป็นของการไฟฟ้านั้น ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของการไฟฟ้า เป็นของชาวบ้านที่เดินสายพาดผ่านไว้เพื่อใช้ในสวน เป็นการต่อสายมาจากหม้อแปลงส่วนบุคคลของคู่กรณี ตนเสนอให้ชดใช้เงิน 5 ล้านบาท แต่ถูกต่อรองเหลือเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเราคิดว่าสิ่งที่เราสูญเสียหากเปรียบเทียบกับชีวิต 1 คน มันมากกว่านั้น เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักครอบครัว มีลูกอายุ 6 ขวบ ที่ยังต้องเรียน และยังมีภาระพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู

ตนย้อนถามคู่กรณีไปว่า หากเป็นคุณที่ต้องสูญเสียเสาหลักในครอบครัวแทน คุณจะเรียกเงินเราเท่าไหร่ แต่คำตอบไม่มี จากนั้น น.ส.แววดาว ได้ไปเคาะโลงศพเรียกผู้ตาย พร้อมบอกว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน