โจรตระเวนงัดบ้าน 4 อำเภอ ที่แท้เป็นผู้ใหญ่บ้าน
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ได้มีเหตุคนร้ายงัดแงะบ้าน ลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ อ.หนองหญ้าไซ จำนวน 2 หลัง และในพื้นที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จำนวน 1 หลัง ชุดสืบสวนได้สืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า ในช่วงเวลาวันที่ 15-19 สิงหาคม 2567 ผู้ต้องหาได้ลงมือกระทำผิดในท้องที่ ทั้งเขต อ.หนองปรือ, อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และ อ.หนองหญ้าไซ, อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อย่างต่อเนื่องกัน
โดยมีตำหนิรูปพรรณการแต่งกายคนร้ายขณะก่อเหตุ สวมใส่หมวกผ้าสีน้ำตาล ด้านบนสีเหลือง คลุมหน้า สวมใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว กางเกงขายาวสีกรมท่า สวมถุงมือสีฟ้าคาดดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไอ 110 สีน้ำเงิน ใส่ล้อแม็กซ์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์วนดูบ้านเป้าหมาย จากนั้นจะนำรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณใกล้กับบ้านเป้าหมาย และเดินเข้าไปทำการก่อเหตุและใช้อุปกรณ์เป็นไขควง ประแจยาว เหล็กยาวทำการกระแทกหน้าต่าง และเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในบ้าน หลบหนีไป
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สามชุก, ชุดสืบสวน สภ.หนองหญ้าไซ, กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, กก.สส.2 บก สส.ภ.7 ร่วมกันจับกุมตัว นายสมหวัง อายุ 49 ปี อยู่ ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ.207/2567 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567
โดยต่อมาได้นำนายสมหวังไปทำการตรวจค้น ที่บ้านนายสมหวังพบของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไอ 110 สีน้ำเงิน ทะเบียน กทม. ถุงมือผ้าลายสีเขียว-ดำ จำนวน 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า นายสมหวังมีพฤติกรรมงัดแงะ ลักทรัพย์ตามบ้านพักอาศัย ขอชื่นชมทีมงานสืบสวน ภ.จว.สพ., ทีมสืบสวน สภ.หนองหญ้าไซ, ทีมงานสืบสวน สภ.สามชุก คดีนี้ต้องนำไปเป็นแนวทางการสืบสวนและสอบสวน ออกหมายจับได้จากคนร้ายสวมหมวกไหมพรมปิดใบหน้า ใส่ถุงมือ ไม่มีภาพกล้องในขณะทำผิดเลยสักจุด และไม่มีพยานเห็นยืนยันขณะก่อเหตุเลยสักจุดหนึ่ง แต่ตำรวจสุพรรณสามารถสืบสวนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้