เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ เรื่องน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะใน จ.เชียงราย เวลานี้ว่า ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักมาก ติดต่อกันหลายวัน โดยจุดที่ฝนตกหนักหลักๆ คือ ที่ภูชี้ฟ้า อ.เชียงคำ จ.พะเยา น้ำไหลลงไปที่ อ.เทิง จ.เชียงราย และลงในแม่น้ำโขง โดยพื้นที่พะเยา น่าน และเชียงรายนั้น จะเป็นพื้นที่กลุ่มร่องฝนเดียวกัน หลังจากนี้จุดที่น่าเป็นห่วงมากจุดต่อไปคือ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ เพราะมวลน้ำทั้งหมดจะไหลต่อไปยังพื้นที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามขอบอกนักการเมืองในพื้นที่ตอนนี้ว่า ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งพูดเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่จะสร้างในพื้นที่ลุ่มน้ำยม เหมือนที่เคยพยายามผลักดันกันทุกครั้งที่มีน้ำท่วมเกิดขึ้น แต่ต้องดูที่สาเหตุให้ชัดเจนก่อนว่า น้ำที่ท่วมนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งสาเหตุของน้ำท่วมในเวลานี้คือ ฝนตกหนักมากในเขตพื้นที่ต้นน้ำ สภาพลำน้ำหลายแห่งกลายเป็นไร่ข้าวโพด เช่นที่ อ.ปง อ.เชียงม่วน จ.พะเยานั้น มีการทำไร่ข้าวโพดรุกถึงลำน้ำ สมมุติว่า ที่ผ่านมามีเขื่อนแก่งเสือเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเขื่อนแก่งเสือเต้นจุน้ำได้ 1.175 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สภาพฝนที่ตกลงมาเวลานี้ จะทำให้มีน้ำที่ไหลลงเขื่อน มากเกินกว่าที่เขื่อนจะสามารถรับได้แล้ว ในที่สุด เขื่อนก็ต้องปล่อยน้ำออกมาอยู่ดี” นายหาญณรงค์กล่าว

นายหาญณรงค์กล่าวว่า ที่พูดได้เช่นนี้ ก็เพราะเวลานี้ ฝายขนาดเล็กหลายสิบฝาย รวมทั้งอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ พังไปหลายสิบแห่งแล้ว ชี้ให้เห็นว่า เขื่อนแก่งเสือเต้นไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ หากมีปริมาณฝนตกมากมายขนาดนี้

สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำแบบเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือ 1.ต้องเตือนภัยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ พื้นที่ที่มวลน้ำกำลังจะไหลไปถึง คือ สุโขทัย พิษณุโลก และนครสวรรค์ 2.เยียวยาความเสียหายแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และ 3.เร่งสรุปบทเรียนที่เกิดขึ้น