จากกรณีที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก 10 อันดับผลไม้ ที่น้ำตาลมากและน้ำตาลน้อย โดยระบุว่า 5 อันดับผลไม้ไทยมีปริมาณน้ำตาลมากสุด 5 อันดับ ที่มีน้ำตาลมากที่สุด ในปริมาณ 100 กรัม มีลำดับ ต่อไปนี้ 1.มะขามหวาน มีน้ำตาล 58.28 กรัม ต่อน้ำ 2. อินทผลัม มีน้ำตาล 55.30 กรัม 3.พุทราจีนแห้ง มีน้ำตาล 51.35 กรัม 4.กล้วยน้ำว้า มีน้ำตาล 23.67 กรัม 5. กล้วยไข่ มีน้ำตาล 21.83 กรัม

และ 5 อันดับที่มีน้ำตาล น้อยที่สุด ประกอบด้วย 1.กระจับ มีน้ำตาล 0 กรัม 2.แปะก๊วย มีน้ำตาล 0 กรัม 3.เมล็ดบัวสด มีน้ำตาล 17 กรัม 4.แตงไทย มีน้ำตาล 2.5 กรัม 5.เนื้อมะพร้าวอ่อน มีน้ำตาล 2.8 กรัม นั้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าว มีหลายคนสงสัยว่า ผลไม้อย่าง ทุเรียน และลำไย ทำไมไม่ติดอันดับผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะ ทั้งนี้ จากข้อมูลข่าวสารที่ออกมาที่ผ่านมา ต่างนำเสนอให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ทุเรียน และลำไย นั้น เป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงมากไม่ควรรับประทานมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วย

สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นพ.ฆนัท ครุธกูล อายุรแพทย์โรคหัวใจ และ นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ เปิดเผยกับ มติชนออนไลน์ว่า ข้อมูลที่ ทางสสส.ให้มานั้น ก็ไม่ได้ผิด เพียงแต่ ยังบอกไม่หมด และไม่ครบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ที่มีหลายคน ท้วงติงมาว่า ทำไมผลไม้น้ำตาลเยอะ 5 อันดับ จึงไม่มีทุเรียนและลำไย ที่คนไทยส่วนใหญ่ เข้าใจมาตลอดว่า มีน้ำตาลเยอะไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป

อย่างคนที่คิดว่าทุเรียนมีปริมาณน้ำตาลสูง ก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้มากเกินจนไม่สามารถกินได้เลย สามารถกินได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ทั้งนี้ แต่ทุเรียนแต่ละพันธุ์นั้น ก็มีปริมาณน้ำตาลไม่เท่ากัน โดยข้อมูลทางโภชนาการ พบว่า ในปริมาณ 1-2 เม็ด หรือ 100 กรัม ทุเรียนหมอนทอง มีน้ำตาล 21.3 กรัม ก้านยาว 12.9 กรัม และ ชะนีไข่ 7.7 กรัม ส่วนลำไยนั้น ในปริมาณ 9 ลูก หรือ 75 กรัม มีน้ำตาล 14 กรัม กล้วยน้ำว้า 1 ผล หรือประมาณ 40 กรัม มีน้ำตาล 9 กรัม มะม่วงสุก 65 กรัม มีน้ำตาล 52 กรัม องุ่น 15 ลูก น้ำตาล 13 กรัม สัปปะรด 5 ชิ้น น้ำตาล 15 กรัม ส้มเขียวหวาน 1 ผล น้ำตาล 13 กรัม น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก น้ำตาล 19 กรัม เงาะ 4 ลูก น้ำตาล 13 กรัม ขนุน 2 ยวง น้ำตาล 13 กรัม แตงโม 8 ชิ้น(คำ) 19 กรัม ” นพ.ฆนัท กล่าว และว่า ผลไม้ทุกชนิด มีน้ำตาลอยู่แล้ว การรับประทานนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณ พฤติกรรม และสุขภาพของผู้รับประทานด้วย