เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พนักงานสอบสวน สภ.กุดชุม จ.ยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำกีดขวางการจราจรและมีน้ำมันรั่วไหล ที่ถนนวารีราชเดช บริเวณทางโค้งก่อนถึงโรงพยาบาลกุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงเข้าไปช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งหักศอกพบรถบรรทุกฮีโน่ สีน้ำเงิน หัวลากทะเบียน 71-8124 สระบุรี ลูกพ่วงทะเบียน 72-4422 สระบุรี พลิกตะแคงอยู่กลางถนนจนทำให้น้ำมันดีเซลที่บรรทุกมากว่า 43,000 ลิตร รั่วไหลออกมา

ส่งผลทำให้พื้นถนนเจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำมันสร้างความแตกตื่นตกใจกลัวให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ใกล้กันยังพบว่ามีแบริเออร์แบบลูกกลิ้งถูกชนจนได้รับความเสียหายทั้งแถบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องทำการปิดการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อความปลอดภัย และได้กันพื้นที่เอาไว้พร้อมกับห้ามให้ประชาชนหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะทำให้เกิดประกายไฟจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านแอบเข้าไปตักเอาน้ำมันที่ไหลมาตามพื้นถนน

สอบถามนายธวัชชัย สมจิตร อายุ 31 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุ กล่าวว่า ตนขับรถบรรทุกน้ำมันดีเซลทั้งหมด จำนวน 43,000 ลิตร มาจากจังหวัดสระบุรี เพื่อนำไปส่งที่จังหวัดนครพนม โดยมีภรรยานั่งมาเป็นเพื่อนด้วย และอ้างว่าไม่ได้ขับรถเร็วเพราะเพิ่งออกจากแยกไฟแดง

แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกตนพยายามบังคับให้เข้าทางโค้งแต่ด้วยน้ำหนักรถที่ค่อนข้างมากทำให้ล้อรถฝั่งซ้ายยกขึ้นจนทำให้พลิกคว่ำดังกล่าวและมีน้ำมันที่บรรทุกมารั่วไหลออกมาตลอดเวลาแต่โชคดีที่ตนกับภรรยาปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องนำรถดับเพลิงไปจอดประจำการไว้บริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมกับได้นำทรายไปเทกลบบริเวณผิวจราจรที่มีคราบน้ำมันรั่วไหลเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นและได้ประสานนำรถเครนขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน ไปช่วยกันกู้ซากรถที่พลิกคว่ำออกจากผิวจราจรโดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอีกครั้ง

รายงานข่าวว่า ตรงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งหักศอกมักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่และคนที่ไม่ชินเส้นทางทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย