ปภ.เตือน 23 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม
วันนี้ (14 ส.ค. 67) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 16 - 22 ส.ค. 67 กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัย อย่างเคร่งครัด
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน
ประกอบกับร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ระหว่างวันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2567 แยกเป็น
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
- ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปางมะผ้า อำเภอขุนยวม) เชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย อำเภอเชียงดาว) เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเวียงแก่น อำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเทิง อำเภอแม่ลาว) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอแม่ทา อำเภอลี้ อำเภอป่าซาง)
ลำปาง (อำเภอวังเหนือ อำเภองาว) พะเยา (อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูซาง อำเภอปง อำเภอ เชียงคำ อำเภอจุน อำเภอเชียงม่วน) แพร่ (อำเภอเมืองแพร่ อำเภอเด่นชัย อำเภอลอง อำเภอวังชิ้น) น่าน (อำเภอเมืองน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอแม่จริม อำเภอบ้านหลวง อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอเวียงสา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอสันติสุข อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสองแคว อำเภอภูเพียง)
อุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอลับแล อำเภอพิชัย อำเภอทองแสนขัน อำเภอท่าปลา) ตาก (อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่สอด) พิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ อำเภอนครไทย อำเภอวังทอง อำเภอ เนินมะปราง) และเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ เลย (อำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม) หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอโพนพิสัย อำเภอโพธิ์ตาก อำเภอรัตนวาปี) บึงกาฬ (ทุกอำเภอ) หนองบัวลำภู (อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง) อุดรธานี (อำเภอเพ็ญ อำเภอบ้านดุง อำเภอทุ่งฝน อำเภอหนองหาน อำเภอหนองแสง)
สกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอบ้านม่วง อำเภอคำตากล้า อำเภอเจริญศิลป์ อำเภอวานรนิวาส อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอส่องดาว อำเภอพรรณานิคม) และนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม อำเภอ บ้านแพง อำเภอนาทม อำเภอศรีสงคราม อำเภอท่าอุเทน อำเภอนาหว้า อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอปลาปาก อำเภอธาตุพนม)
- ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก (อำเภอเมืองนครนายก อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา) ปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี) จันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอมะขาม อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์) และตราด (อำเภอคลองใหญ่ อำเภอเกาะกูด)
พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ในบริเวณพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ตราด และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของลำน้ำงาว (เชียงราย อำเภอเวียงแก่น) แม่น้ำสาย (เชียงราย อำเภอแม่สาย) ลำน้ำปาย (แม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปางมะผ้า อำเภอปาย) แม่น้ำลาว (เชียงราย อำเภอเทิง พะเยา อำเภอเชียงคำ อำเภอภูซาง)
แม่น้ำน่าน (น่าน อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอเชียงกลาง อำเภอภูเพียง อำเภอท่าวังผา) แม่น้ำยม (พะเยา อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน แพร่ อำเภอสอง อำเภอหนองม่วงไข่ พิษณุโลก อำเภอบางระกำ) แม่น้ำแควน้อย (พิษณุโลก อำเภอนครไทย) แม่น้ำป่าสัก (เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก อำเภอหนองไผ่) ลำน้ำก่ำ (นครพนม อำเภอเรณูนคร) และแม่น้ำตราด (ตราด อำเภอเมืองตราด อำเภอเขาสมิง อำเภอบ่อไร่)
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 13 จังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยภัย เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักบางพื้นที่ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มได้
โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด
หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ ได้กำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ สถานการณ์น้ำ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
โดยประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป