เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม 2567 นางยุพา ชาวต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ร้องสื่อว่า ได้จัดงานแต่งให้ลูกสาว แต่ถูกเทงานแต่ง เจ้าบ่าวเงียบหายไม่สามารถติดต่อไ ด้และไม่มีญาติฝ่ายเจ้าบ่าวติดต่อมาหาเลย

นางยุพา แม่ของเจ้าสาว บอกว่า งานนี้ที่เกิดขึ้นเพราะเจ้าบ่าวนำญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอ แล้วก็ตกลงกันเรียบร้อยพู ดคุยกันถึงเรื่องการแต่งงาน โดยให้ฝ่ายเจ้าสาวเป็นคนดูฤกษ์วันแต่งงาน จนฝ่ายเจ้าสาวได้ฤกษ์งามยามดีในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 และได้แจ้งให้ฝ่ายเจ้าบ่าวได้รับรู้ตลอดเวลา และทางฝ่ายเจ้าบ่าวได้จัดพิมพ์การ์ดแต่งงานส่งมาให้ฝ่ายเจ้าสาวได้ไปแจกแขกมาร่วมงาน

หลังจากนั้นเจ้าบ่าวได้บอกกับเจ้าสาวว่า จะขึ้นไปหาแม่ที่เชียงราย เพื่อไปขอเงินมาแต่งงาน แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าบ่าวกลับไม่มาในงานแต่ง เทงานเงียบหายไปเล โดยไม่ติดต่อ ในขณะที่ฝ่ายเจ้าสาวได้จัดเตรียมโต๊ะ เต็นท์ไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเชิญแขมาร่วมงานในตอนเช้า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 กว่าบาทที่ทางไปเจ้าสาวได้ออกไปก่อนแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนประมาณ11.00 น. เห็นว่าไม่สามารถติดต่อเจ้าบ่าวได้ และไม่มีญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าบ่าวโทรมาประสานอะไรเลย ก็รู้ได้ทันทีว่าทางเจ้าบ่าวเทงานแต่งลูกสาว จึงได้ตักข้าวปลาอาหารที่จัดเตรียมไว้เลี้ยงแขกใส่ถุงแจกแขก และญาติพี่น้องที่มาร่วมงานเอากลับไปกินจึงอยากวอนให้ฝ่ายเจ้าบ่าวเข้ามารับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ด้วย เพราะตนเองก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าโต๊ะเต็นท์เหมือนกัน

ด้านนางสาวปลายรัก อายุ 16 ปี ว่าที่เจ้าสาว เผยว่าเจ้าบ่าวคือนายวุฒิชัย (ท็อป) คบหากันมากว่า 1 ปีแล้ว ตกลงกัน แต่งงาน แต่พอถึงวันแต่งจริงๆเจ้าบ่าวกลับหายไปเลย ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง ตนเองรู้สึกผิดหวังที่ฝ่ายเจ้าบ่าวทำกับตนเช่นนี้

โดยการพูดคุยทางไลน์ก็รับปาก และให้ตนจัดเตรียมงานแต่ง แต่พอถึงวันเจ้าบ่าวกลับไม่มาตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ตนมีความรู้สึกอับอายและเจ็บใจมากในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งได้จัดเตรียมของชำร่วย เพื่อจะแจกจ่ายให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน

และที่เจ็บใจไปมากกว่านั้น คือตนเองกำลังตั้งท้องได้ 5 เดือนด้วย ซึ่งตนคาดว่าหลังจากนี้จนก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับว่าที่เจ้าบ่าวที่เทงานสำคัญในครั้งนี้อย่างแน่นอน