วิกฤตแล้ว รถบรรทุกจีนแย่งงาน รถบรรทุกไทยจอดนิ่งหลายคัน รอไฟแนนซ์ยึด
วันที่ 5 ส.ค.2567 นายวิชัย สว่างขจร นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า สถานการณ์เป็นช่วงวิกฤตที่สุดภาพรวมจำนวนสมาชิกประมาณ 700 ราย และมีรถบรรทุกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคัน ขณะนี้รถร่วม 50 % ต้องแจ้งขนส่งขอจอดทั้งแบบชั่วคราวและถาวร เพื่อให้ทะเบียนยังคงอยู่และในรอบปีถูกไฟแนนซ์ตามยึดรถ 2-3 พันคัน ผลกระทบมาจากหลายปัจจัย ประกอบด้วยราคาน้ำมันดีเซลแพงขึ้น งานจ้างขนส่งลดลง
โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ปรากฏไทยเสียเปรียบมาก เนื่องจากผู้ประกอบการชาวจีนได้มาซื้อกิจการขนส่งที่ สปป.ลาว อย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบริษัทนอมินีและใช้กฎ กติกาของรัฐบาล สปป.ลาว ระบุข้อห้ามรถบรรทุกไทยส่งสินค้าได้แค่ด่านพรมแดนเท่านั้นให้เราทิ้งหางพ่วงสินค้าไว้ รถบรรทุกจีนจะมาขนส่งกันเองแต่รถบรรทุกจากต่างประเทศส่วนใหญ่ขนผลไม้ เหล็กเส้น ปุ๋ยและสินค้าอุปโภค บริโภค ฯ สามารถแล่นเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อย่างเสรีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สินค้าจีนทะลักเข้าไทยเป็นจำนวนมาก
นายวิชัย กล่าวต่อว่า ผลกระทบงานจ้างลดน้อยลงจึงเกิดการดัมพ์ราคาค่าขนส่งระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกัน ทุนจีนมหาศาลรวมทั้งมีสินค้าเยอะ จึงมีอำนาจต่อรองกดราคาจนแทบไม่เหลือกำไร รถหากไม่วิ่งจอดนิ่งก็มีแต่รอโดนไฟแนนซ์ยึด ผู้ประกอบการไทยที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินต้องยอมรับงาน เพื่อหารายได้เลี้ยงลูกน้องและองค์กรรวมทั้งส่งค่างวดที่ขอปรับโครงสร้างหนี้ หลายรายส่งต้นส่งดอกมาเกินครึ่ง แต่ไม่มีงานรถถูกตามยึดจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
ฝากถึงรัฐบาลหันมาทบทวนสัญญาการค้าอาเซียนและให้ความสำคัญปัญหาต่างชาติเข้ามาเปิดคลังสินค้าแบบเต็มรูปแบบได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการขนส่ง มิเช่นนั้นการขนส่งสินค้ามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้ทุกภาคส่วนของประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าจะทยอยล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ