เวลา 16.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ร.ต.ท.ธนวัฒน์ นครพิน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุวัวชนรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และวัวถูกรถเบนซ์ชนทับตายใต้ท้องรถ บนถนนสาย 324 กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุเป็นถนนฝั่งละสองเลน มีเกาะกลางถนน บนเลนขวาถนนขาเข้าเมืองกาญจนบุรี หน้าห้างตกแต่งบ้านชื่อดัง ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พบรถเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น E200 ซีรีส์ W212 สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 9119 กระบี่ จอดในเลนขวา สภาพกันชนหน้าแถบขวาแตก กระจังหน้าโลโก้หลุดหาย แผงคอยล์แอร์แตก ที่ใต้ท้องรถพบซากวัวตัวเมียถูกชนทับโดยส่วนขาหลังวัวโผล่ออกมาด้านประตูฝั่งขวา เลือดวัวไหลนอง น้ำยาแอร์ไหลบนถนน มีอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เปิดสัญญาณไฟเตือนป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และใช้แม่แรงตะเข้ยกด้านท้ายรถเบนซ์ให้สูงพอที่จะดึงซากวัวออกจากใต้ท้องรถได้ และตรวจดูที่ใบหูของวัวเพื่อหาชิปที่ฝังไว้หรือเลขที่ระบุเจ้าของวัว แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะนำซากวัวไปขายให้โรงเชือดเพื่อนำเงินมาซ่อมรถต่อไป

ส่วน รถเบนซ์ พบมากันเป็นครอบครัว 5 คน โดยคนขับชื่อนายภูวดิท อายุ 50 ปี เผยว่า ขับมาจากนครปฐมจะไปกาญจนบุรี มาทางมอเตอร์เวย์ วัววิ่งข้ามถนนจากอีกฝั่งหนึ่ง ข้ามเกาะกลางถนน โดยวัวกระโดดตัดหน้ารถพอดีเลยชนอย่างจังและวัวหลุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ ตนก็ตกใจเพราะมีเด็กๆ นั่งอยู่ข้างหลัง

ในระหว่างที่กำลังเคลื่อนย้ายรถเบนซ์อยู่นั้น ได้มีพ่อของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟไอ ทะเบียน 1กด 9980 กาญจนบุรี ถูกวัวตัวเดียวกันพุ่งชนมาติดต่อกับร้อยเวร แจ้งว่าชื่อ นายทัศนะ ไทยน้อย อายุ 48 ปี ให้ข้อมูลว่า ลูกชายขี่รถออกจากบ้านมาถึงปากทาง ส่วนวัววิ่งมาจากไหนไม่รู้ ซึ่งลูกเล่าให้ฟัง อยู่ๆ วัวมันวิ่งมาชนเลย ลูกก็โทรหาและบอกว่าวัววิ่งเตลิดมาทางนี้ ส่วนลูกมากัน 2 คน เจ็บขาทั้ง 2 คน ลุกไม่ได้ รถก็พัง หน้าบี้ ดุมแตก วิ่งไม่ได้