ชาวบ้านร้อง เจดีย์อนุสรณ์สถาน 1.8 ล้าน ไม่สมราคา วอนตรวจสอบความโปร่งใส
จากกรณีชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนบ้านสระมะค่า ตำบลหินดาด อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยตรวจสอบความโปร่งใสการก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานพระครูปทุมวนารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดประจำหมู่บ้าน ซึ่งหลวงปู่ศรีฯ พระนักพัฒนาที่ได้รับความเคารพและศรัทธาของชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก ได้มรณภาพไปเมื่อปี พ.ศ.2560 จึงมีการระดมทุนทรัพย์ทำบุญและบริจาคมาก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถาน เพื่อบรรจุอัฐิและรูปเหมือนของหลวงปู่ศรีฯ เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนและพุทธศาสนิกชนได้มาเคารพกราบไหว้ โดยผู้นำชุมชนและคณะกรรมการของวัด โดยตั้งงบประมาณราคาการก่อสร้างไว้ที่ 1.8 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา
แต่หลังจากเจดีย์อนุสรณ์สถานดังกล่าวได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านถึงกับอึ้ง รับไม่ได้กับรูปทรงของเจดีย์ที่สร้าง เพราะดูไม่สมราคาที่ต้องจ่ายถึง 1.8 ล้านบาท ชาวบ้านหลายคนจึงไม่ให้นำอัฐิและรูปเหมือนของหลวงปู่ศรี มาเข้าไว้ที่เจดีย์อนุสรณ์สถานฯ ดังกล่าว เนื่องจากรูปทรงไม่เหมือนเจดีย์ แต่เหมือนก่อสร้างเป็นอาคารทรงกล่องสี่เหลี่ยมมาครอบเอาไว้ และมีแค่ส่วนยอดเจดีย์โผล่มาเหนือหลังคาตรงกลางเท่านั้น รูปทรงจึงดูตลกมากกว่าจะทำให้เกิดความศรัทธา
นอกจากนี้ ตัวเจดีย์เริ่มทรุดตัว พื้นกระเบื้องโดยรอบแตกชำรุด สีบางส่วนกะเทาะหลุดร่อน รวมถึง มีบางชิ้นส่วนของอาคารเริ่มแตกหักชำรุด จึงต้องปิดล็อกเจดีย์อนุสรณ์สถานเอาไว้ ไม่ให้เข้าใช้งานตั้งแต่ก่อสร้างเสร็จ
จนเมื่อมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสใหม่ จึงได้มีไปทวงถามถึงเอกสารการก่อสร้าง และรายละเอียดงบประมาณการเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้าง แต่ผู้เกี่ยวข้องก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้มีการตรวจสอบ ทั้งยังไม่ได้ส่งมอบกุญแจล็อกประตูหน้าเจดีย์ให้กับทางวัด และยังมีการปลุกปั่นชาวบ้านให้มารวมตัวขับไล่เจ้าอาวาสใหม่ให้ออกจากวัด โดยอ้างเหตุผลว่า เจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสเรื่องบัญชีการเงิน และใช้คำพูดรุนแรงไม่เคารพผู้สูงอายุ , มีการนำเป็ดกว่า 30 ตัวมาเลี้ยงในวัด ทำให้มีกลิ่นเหม็น และมีการเปลี่ยนเส้นทางบิณฑบาตโดยไม่แจ้งให้ชาวบ้านทราบ
ซึ่งข้อกล่าวหาที่ถูกร้องเรียน ทางผู้ปกครองคณะสงฆ์ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ลงความเห็นว่า ความผิดยังไม่ปรากฏชัดเจนจนถึงขั้นอาบัติปาราชิก หรือต้องขับไล่ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส
โดยเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นชาวบ้านเกรงว่าอาจจะมีความขัดแย้งรุนแรง จึงอยากให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบความโปร่งใสของการดำเนินการก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่ศรีฯ และตรวจสอบพฤติกรรมของพระตามข้อกล่าวหาที่ถูกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสทั้งสองฝ่าย ทำให้วัดเป็นสถานที่สงบสุขสำหรับพุทธศาสนิกชนต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) พระมหาวิรัตน์ เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า “เจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่ศรี มีการสร้างขึ้นในสมัยอดีตรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อเป็นเพียงพระลูกวัด และการก่อสร้างมีการประชาคม โดยผู้นำชุมชนกับชาวบ้านได้มีความเห็นร่วมกันที่จะก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถาน เพื่อให้ญาติโยมได้สักการะกราบไหว้รูปเหมือนหลวงปู่ศรี โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 1 ล้านบาท สร้างโดยช่างก่อสร้างในชุมชนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
จนก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อช่วงปลายปี 2563 แต่ก็ไม่ได้มีการอัญเชิญรูปเหมือนหลวงปู่ศรีขึ้นประดิษฐาน จนอาตมาได้ขึ้นไปเจ้าอาวาสในปี 2566 จึงได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ปรากฏว่า ไม่มีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเจดีย์ มีเพียงรายการเบิกเงินจำนวน 3 ครั้ง เป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอาคารเจดีย์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดใช้งาน เนื่องจากไม่ทราบว่า กุญแจประตูอยู่ที่ผู้ใด ใครเป็นคนเก็บไว้ก็ไม่ทราบ
นายสมชาย ผู้ใหญ่บ้านสระมะค่า ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา อดีตกรรมการวัดฯ กล่าวว่า การสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่ศรี ใช้งบประมาณก่อสร้างเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งตนได้อยู่ร่วมในการประชุมประชาคมที่ศาลากลางหมู่บ้านในปี 2563
โดยพระครูจารุวรรณนาภรณ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดปทุมวัน และเจ้าคณะตำบลหินดาดในขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการ ตนเป็นแค่กรรมการวัดในขณะนั้น ไม่รู้รายละเอียดในการก่อสร้าง และเงินที่ใช้ก่อสร้าง พระครูจารุวรรณนาภรณ์ฯ เป็นคนเบิกเงินวัดปทุมวันและมอบเงินให้ตน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น ได้ใช้จ่ายตามรายการที่มีผู้ขอเบิกจริง
ซึ่งพระครูจารุวรรณนาภรณ์ฯ ได้ติดต่อช่างในพื้นที่มาดำเนินการก่อสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยมีนายไม เป็นช่างที่รับเหมาก่อสร้าง แต่เนื่องจากเป็นช่างในชุมชน จึงไม่มีสัญญาว่าจ้าง และไม่ทราบว่าจะต้องขออนุญาตก่อสร้างจาก อบต.หินดาด หรือไม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างเจดีย์ประมาณครึ่งปีจึงแล้วเสร็จ ปัจจุบันตนไม่ได้เป็นกรรมการวัดแล้ว จึงไม่ทราบว่า กุญแจเปิดห้องโถงเจดีย์อยู่ที่ใคร