จากกรณี นายคำพันธ์ อายุ 46 ปี ชาว ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.ค. หลังกินแกงเห็ดที่เก็บมาจากป่า ซึ่งมีคนกินแกงเห็ดจำนวน 3 คนคือ 1.นายบุญ อายุ 69 ปี 2.นายคำพันธ์ ที่เสียชีวิตไปแล้ว และ 3.นางสำลี อายุ 50 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ทั้งหมดหลังถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ต่อมาญาติ นางสำลี ขอนำตัวไปรักษาต่อที่จังหวัดกาฬสินธุ์บ้านเกิด

ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค. 67 มีรายงานว่า นางสำลี ที่กินแกงเห็ดด้วยกันได้เสียชีวิตลงอีก 1 คน ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ยังเหลือ นายบุญ อายุ 69 ปี พ่อนายคำพันธ์ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อาการยังสาหัส รวมเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย จาก 3 คน ที่กินแกงเห็ดพิษด้วยกัน เมื่อวันที่ 9 ก.ค.

นายสุนทร วงศ์ทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสระกระจาย หมู่4 ต.สตึก กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านเป็นระยะเรื่องการเก็บเห็ดไปประกอบอาหาร หากไม่รู้จักเห็ดไม่ควรนำไปปรุงอาหาร หรือให้สอบถามคนที่รู้จักเห็ดว่าเห็นชนิดไหนเป็นเห็ดพิษ

สำหรับกรณีนี้ถือว่าไม่ยอมเชื่อฟังคำเตือนของคนแก่ ที่รู้จักเห็ดแล้วห้ามนำไปปรุงเป็นอาหาร แต่ยังฝืนเพียงแค่เสียดายเห็ดที่เก็บมา โดยเฉพาะกินแกงเห็ดที่มีพิษผสมอยู่ถึง 2 เวลาทำให้พิษเห็ดรุนแรงขึ้นไปอีก

นายสุนทร กล่าวต่อว่า จริงแล้วเห็ดกินได้จะบ่งบอกชัดเจน คนที่ไม่รู้จักเห็ดควรจะเลือกกินเห็ดที่ผู้คนนิยมบริโภค เช่น เห็ดโคนหรือเห็ดปลวก , เห็ดไคหรือเห็ดหล่ม(ภาษาเหนือ) ,เห็ดระโงก หรือเห็ดไข่ห่าน เป็นต้นเห็ดกลุ่มนี้จะมีเอกลักษณ์ชัดเจน ต่างจากเห็ดอื่น หากไม่รู้จักไม่ควรจะเลือกซื้อเห็ดรวมที่แม่เอาเห็ดหลายชนิดมารวมเป็นกระทงขาย