หญิงวัย 60 ปีนเสาโทรศัพท์หวังจบชีวิต เผยสาเหตุ
วันที่ 19 ก.ค. 67 ร.ต.ต.ประดิษฐ์ โม้เวียง รอง สวป.สภ.ท่าบ่อ (ปฏิบัติหน้าที่จราจร) และ ด.ต.สมคิด กองลุน ผบ.หมู่ จราจร สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อว่ามีผู้หญิงกำลังปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ใกล้กับปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ริมถนนทางหลวงสายท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่ หมู่ 1 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายจึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายพรชัย พรพิรุณโรจน์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประจักษ์จุดอำเภอท่าบ่อ และ หน่วยกู้ภัยประจักษ์จุดอำเภอศรีเชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบหญิงอายุประมาณ 60 ปี ปีนขึ้นไปบนเสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์ที่มีความสูงประมาณ 80 เมตร มีอาการเหม่อลอยอยู่ช่วงรอยต่อเสาช่วงที่ 5 ซึ่งสูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันตะโกนให้ปีนลงจากเสา กระทั่งหญิงคนดังกล่าวได้ยอมพูดคุยตอบโต้และบอกว่าตนเองชื่อ นางมณีรัตน์ อายุ 60 ปี ชาวจ.หนองคาย พร้อมตะโกนบอกอยากตายเนื่องจากมีหนี้สินเยอะ
ทางด้าน ด.ต.สมคิด กองลุน จึงได้ปีนขึ้นไปเกลี้ยกล่อมและบอกให้ใจเย็น ๆ จนกระทั่งนางมณีรัตน์ มีท่าทีอ่อนลง ด.ต.สมคิด จึงปีนขึ้นไปพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประจักษ์นำตัวลงมาสงบสติอารมณ์ที่ด้านล่าง
จากการสอบถาม นางมณีรัตน์ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า เครียดเนื่องจากเป็นหนี้นอกระบบ (หนี้ทอง) ต้องหาเงินมาจ่ายรายวันทุกวันวันละเกือบ 400 บาท ไม่รวมหนี้รายเดือนอีก ช่วงนี้ตนหาเงินไม่ได้เจ้าหนี้ก็ติดตามทวงรายวัน ตนมีหนี้อยู่รวม ๆ ประมาณ 50,000 บาท ตนอยากหาเงินมาปิดหนี้ แต่หายืมที่ไหนก็ไม่ได้จึงตัดสินใจหวังจบชีวิตโดยการไปกระโดดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ แต่ตนใจเย็นลงเพราะตำรวจพูดเกลี้ยกล่อม
ด.ต.สมคิด กองลุน กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้ขอข้อมูลหนี้ที่นางมณีรัตน์ติดค้างอยู่เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อหาทางช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าหนี้ของนางมณีรัตน์ไม่ใช่หนี้ของแก๊งเงินกู้รายวัน แต่เป็นหนี้สินที่ยืมมาประกอบธุรกิจส่วนตัว (ขายก๋วยเตี๋ยว) แต่ประสบภาวะขาดทุนทำให้เกิดอาการเครียด ตนได้พูดเกลี้ยกล่อมให้ลงมาตำรวจจะหาทางช่วยเหลือ จนนางมณีรัตน์ใจอ่อนยอมลงมา