เอารถไปเปลี่ยนฟิล์ม พอไปรับ หายทั้งรถและช่าง เจอโผล่ที่เต็นท์
จากกรณีผู้เสียหายได้โพสต์ประกาศตามหารถหายและระบุสถานที่รถหาย ที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยเวลา 18:00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ได้นำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ค ปี 95 สีบรอนซ์เงิน เข้าไปติดฟิล์มกับร้านแต่ถึงเวลามาเอารถคืน กลับไม่พบรถ ซ้ำเจ้าของร้านปิดร้านหนี
โดย น.ส.สุรีรัตน์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของรถยนต์ (ผู้เสียหาย) เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 67 ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. นำรถยนต์คันดังกล่าวมาติดฟิล์มกรองแสงกับช่างที่ร้าน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าพรุ่งนี้ เวลา 7.30 น.ให้เข้ามารับรถยนต์ แต่เช้าของวันที่ 7 ก.ค. ตนเดินทางมาที่ร้านเพื่อที่จะรับรถยนต์คืน แต่พบร้านถูกปิดล็อก ได้พยายามโทรหาเจ้าของร้านแต่ไม่สามารถติดต่อไม่ได้เลย จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมือง
โดยเพิ่งนำรถไปซ่อมทำเครื่องยนต์มา 30,000 บาท ทำสีตัวรถอีก 30,000 บาท เปลี่ยนยางมาใหม่อีก 4 เส้น 6,000 บาท ตนจึงมาถามเรื่องติดฟิล์มเพิ่มที่ร้านแห่งนี้ ทางช่างเรียกค่าติดฟิล์ม 2,000 บาท ซึ่งค่าติดฟิล์มตนก็ได้จ่ายไปให้ก่อนแล้
ล่าสุดเวลา ส.สุรีรัตน์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของรถยนต์มาขอรับรถคืนที่สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเจ้าของร้านที่ก่อเหตุ นำไปฝากขายที่เต๊นท์รถ จึงได้นำมาคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมด้วย
น.ส.สุรีรัตน์ บอกว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รถยนต์คืน ถึงแม้จะเป็นรถคันเก่า ตกรุ่นแล้วแต่ก็รัก เพราะได้ใช้งานมานาน และจำเป็นต้องใช้งาน โดยร้านที่ตนไปติดฟิล์มก็ดูน่าเชื่อถือดีอยู่ใกล้บ้านด้วย
กรณีที่เกิดขึ้นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจสื่อมวลชนและเจ้าของเต็นท์รถเป็นอย่างมาก ที่สามารถตามคืนรถให้ตนได้ และได้อย่างรวดเร็วด้วย และฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ให้กับทุกคน
นายวุฒิไกร (สงวนนามสกุล) เจ้าของเต็นท์รถมือสอง เผยว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนที่เคยรู้จักกันในวงการซ่อมรถยนต์ ได้นำรถยนต์มาฝากขายกับตนเมื่อช่วงตอนตี 5 ของวันที่ 7 ก.ค. 67 ตนได้ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวแล้วพบว่ามีแต่สำเนาหน้าเล่มยังไม่สามารถซื้อ-ขายได้ จึงยังไม่ได้มีการตกลงซื้อ-ขายกัน
โดยผู้ก่อเหตุบอกว่าจะไปนำเอกสารมาให้ครบ จึงได้จอดไว้ที่เต็นท์รถของตนก่อน พอวันที่ 8 ก.ค. ช่วงตี 1 ตนเองก็พบว่าในกลุ่มซื้อ-ขายรถยนต์มีการประกาศตามหารถยนต์คันดังกล่าว ก็ตกใจจึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดต่อเจ้าของรถและนำรถมาคืนที่สถานีตำรวจ พร้อมที่จะเป็นพยานให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่ารถยนต์คันดังกล่าวยังไม่ได้มีการซื้อ-ขายกัน ส่วนผู้ก่อเหตุตนพยายามติดต่อไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีก