วันที่ 8 ก.ค. 67 ที่บ้านดงมะไฟ หมู่ 11 ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร นายวิชัย อายุ 66 ปี ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ หลังกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายคืน เนื่องจากวิตกกังวลกับจดหมายทวงหนี้จากธนาคารแห่งหนึ่ง ลงวันที่ 27 มิ.ย. 67 แจ้งให้ชำระหนี้ทั้งก้อนจำนวน 638,613 บาท พร้อมให้ส่งมอบรถยนต์กลับคืนบริษัท ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า 2 ทะเบียนสกลนคร สีเทา ที่นายสามารถ (บุตรชาย) เป็นผู้เช่าซื้อ และนายวิชัย เป็นผู้ค้ำประกัน หากไม่ดำเนินการชำระเงินภายใน 30 วัน จะถูกบังคับคดียึดทรัพย์สินขายทอดตลาดต่อไป

นายวิชัย เล่าว่า เมื่อต้นปี 2561 ลูกชายและลูกสะใภ้ได้ขอให้ตนซึ่งขณะนั้นทำงานประจำกับหน่วยงานแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร เข้าค้ำประกันสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดง หลังส่งงวดได้ประมาณ 1 ปี ลูกสะใภ้แจ้งว่าได้นำรถไปกู้เงินหนึ่งแสนบาทกับเจ้าหนี้อีกราย

ตนก็ได้นำที่นาไปจำนองกับ ธ.ก.ส. หาเงินมาใช้หนี้นอกระบบให้ จนได้รถมาใช้งานประมาณ 3 วันก็บอกอีกว่ารถยนต์คันดังกล่าวอยู่กับเจ้าหนี้อีกราย และพากันหลบหนีไปทำงานต่างจังหวัดทั้งสองคน ทราบว่าจิดการพนันงอมแงม จากนั้นก็มีไฟแนนซ์มาตามทวงถามค่างวดและรถยนต์กับตนที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง จนล่าสุดได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาเช่าซื้อ โดยให้ชำระหนี้เป็นเงินทั้งจำนวนรวมดอกเบี้ยทั้งหมด พร้อมส่งมอบรถกลับคืนไฟแนนซ์ ภายใน 30 วัน

นายวิชัย กล่าวว่า ตนอยากวิงวอนขอให้ลูกชายและลูกสะใภ้ กลับมาช่วยตามหารถเพื่อจะได้ส่งคืนไฟแนนซ์ ซึ่งที่ผ่านมาพยายามติดต่อลูกทั้งสองคน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงบอกปัดไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ตนพร้อมจะหาเงินมาช่วยชำระกับเจ้าหนี้นอกระบบ เพื่อให้ได้รถยนต์กลับมาคืนไฟแนนซ์ อย่างน้อยมูลหนี้จะได้ลดลงจากยอดหกแสนกว่าบาทบ้าง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงได้เกรงกลัวเจ้าหนี้นอกระบบ ไม่กล้าไปตามเอารถคืน และไม่ยอมบอกด้วยว่าได้นำรถไปกู้เงินกับเจ้าหนี้คนไหนเพราะเกรงอิทธิพล

ตั้งแต่ออกรถคันนี้มา ตนไม่เคยได้ขึ้นรถคันนี้เลย ตอนนี้จึงรู้สึกเสียใจมาก วิตกกังวลว่าหากถูกบังคับคดียึดบ้าน เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้รถยนต์ ตนกับภรรยาและครอบครัวคงไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยอีกต่อไป วันนี้จะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งปัญหาดังกล่าวทั้งนายทุนเงินกู้นอกระบบและการพนันเป็นปัญหาที่รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่