เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ นำกำลังเข้าควบคุมตัวนายนพดล อายุ 20 ปี ชาว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางเป็นรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บุรีรัมย์ ที่นายนพดลขโมยไปมาสอบสวน ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่นำตัวนายนพดลมาถึง สภ.โนนสุวรรณ มีนายเล็ก อายุ 53 ปี เถ้าแก่นายนพดล เกิดความไม่พอใจพยายามจะเข้าไปทำร้ายนายนพดล แต่ถูกห้ามเอาไว้

นายเล็กเล่าว่า เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ จ.นครราชสีมา พานายนพดลที่เพิ่งรู้จักกันมาเยี่ยมญาติและมาดูงานที่ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างรอดูงานอยู่นั้น เห็นนายนพดลอยู่เฉยๆ ญาติจึงใช้ทำงาน ทั้งให้ไปใส่ปุ๋ย ซื้อของ เพื่อให้ได้ค่าแรงไปใช้จ่าย โดยเอารถยนต์คันดังกล่าวขับไปซื้อของ

นายเล็กเผยว่า รู้สึกว่านายนพดลจะชอบรถคันนี้เป็นชีวิตจิตใจ เวลาใช้ไปไหนจะรีบขับรถไปทันที ผ่านไปได้ 2 วัน นายนพดลไม่คืนกุญแจรถให้เจ้าของรถ จนล่าสุดนายนพดลขับรถหายไปทั้งคืน พอรุ่งเช้าได้ขับรถไปตามที่ไร่ เมื่อนายนพพลเห็นตนขับรถมาใกล้ๆ ก็รีบขึ้นรถขับหนีไปต่อหน้าต่อตา พยายามขับไล่ตามไปตั้งแต่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา แต่ตามไม่ทัน จึงโทรศัพท์ให้ญาติที่ไปทำธุระที่ จ.นครราชสีมา ย้อนไปตามเส้นทางที่คิดว่านายนพดลจะขับไป กระทั่งพบนายนพดลกลางทาง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ก่อนจะควบคุมตัวมาที่ สภ.โนนสุวรรณ

นายเล็กเล่าด้วยว่า ตนเป็นคนตรง เห็นเหตุการณ์แบบนี้ยอมรับว่ารับไม่ได้ ทั้งที่เมตตานายนพดลแต่กลับทำแบบนี้จึงเกิดอารมณ์

ด้านนายพิชชากร อายุ 29 ปี เจ้าของรถกระบะ เล่าว่า จากที่สอบถามทราบว่านายนพดลคิดถึงบ้าน อยากไปหาพ่อแม่ และอยากขับรถที่ตัวเองเคยใฝ่ฝัน ส่วนตัวแล้วเห็นใจ อีกทั้งรถไม่ได้รับความเสียหาย ประกอบกับวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของภรรยา จึงยกโทษให้ ไม่ขอแจ้งความดำเนินคดี