หนุ่มกระบะขนพริกขอรับคืนล้อรถ เเต่ตำรวจไม่ให้
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลขณะนี้ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้มีการโพสต์คลิปไลฟ์สด ในขณะที่คนขับรถขนพริกถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจที่ด่านแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาได้เกิดมีการโต้ เถียง กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญขึ้นไปเจรจาในป้อม แต่ทว่าที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็คือ ในระหว่างที่คนขับรถกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในป้อมอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้นที่รถ จึงได้พากันไปดูแหละพบเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่ง มีพิรุธเหมือนกับซุกอะไรบางอย่างไว้แล้วก็วิ่งหนีไป ซึ่งตำรวจอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากยางรถที่แตกจึงขอไปหาหมอก่อน เมื่อดูที่รถพบยางแตกเป็นรอยยาวที่ด้านข้าง แหละมีหมวกหล่นอยู่ จึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว อาจจะมาทำอะไรกับยางรถ จึงทำให้ไม่พอใจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่ามีกล้องวงจรปิดสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งต้องรอติดตามรายละเอียดความคืบหน้าต่อไป
หลังคลิปเผยเเพร่ลงไปในโลกออนไลน์ได้มีชาวเน็ต ต่างเข้ามาวิจารณ์จับผิดการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งพบว่า ที่เสื้อกั๊กของตำรวจทางหลวงได้คัตเตอร์เหล็กเหน็บไว้อยู่ รวมทั้งจากเศษใบสั่งที่ขาดกระจุยปลิวว่อนเกลื่อนถนน รวมทั้งหมวกตำรวจที่ร่วงเเละเสื้อผ้าที่ขาด น่าจะเกิดจากการที่ตำรวจนายนี้ไปทำรถของหนุ่มขนพริก ด้านอาการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางคนขับกระบะเล่าว่าได้ไปโรงพยาบาล
แชทดังกล่าว
เศษใบสั่ง
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 62 สถานีตำรวจทางหลวงหาดใหญ่ ได้ชี้เเจงว่า กระบะยางแตกเป็นเพราะอุบัติเหตุบริเวณด่านตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนของรถนั้น ทางตำรวจก็ได้เปลี่ยนยางให้เเล้ว
ในส่วนความคืบหน้าล่าสุดกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 62 ทาง นายพรพจน์ แซ่ล้อ อายุ 26 ปี เจ้าของรถกระบะขนพริก และ นายพรศักดิ์ แซ่ล้อ อายุ 31 ปี พี่ชายซึ่งเป็นผู้ช่วยขับรถและเป็นคนไลฟ์สดเหตุการณ์ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร ต อ ธีรวัฒน์ สังเมียน รองสารวัตร สอบสวน สภ รัตภูมิ เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุด ในข้อหาที่เกี่ยวข้อง นายพรพจน์ เผยว่า เตรียมจะดำเนินการเอาผิดกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญา จะไม่มีการยอมความและไม่กลัวแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นตำรวจ ซึ่งสาเหตุที่ยางเกิดเหตุนั้นไม่ใช่มาจากที่คิดแน่นอน เพราะเป็นยางใหม่เพิ่งใช้งานได้พันกว่ากิโลเมตรเท่านั้น แต่ลักษณะเป็นรอยกรีดชัดเจนและขณะที่ยาก็มีตำรวจทางหลวงนายนี้นายเดียวที่ไปตรวจรถ ไม่มีคนอื่นอยู่ที่รถเลย
และการสอบสวนคดีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งภายหลังรับแจ้งเสร็จ พงส ก็ได้เริ่มสอบปากคำพยานเจ้าของรถต่อทันที ในส่วนแนวทางข้อหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งนั้น เท่าที่พูดคุยนอกรอบกัน ก็คงจะเป็นข้อหาเจ้าพนักงานปฎิบัติมิชอบและข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แถมยังมีเพิ่มข้อหาหมิ่นประมาท แต่ที่ผมห่วงก็คงหนีไม่พ้นล้อรถเจ้ากรรม ที่วันนี้ทางผู้เสียหายไปขอรับคืน แต่ทางตำรวจทางหลวงยังปฎิเสธ อ้างว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้คืนไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องรอให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือเรียกคืนแล้วละ เพราะถือเป็นพยานวัตถุในคดีที่สำคัญ ส่วนทางหลวงจะสอบวินัยกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความอาญาที่สำคัญกว่า แต่หลังจากนี้คงต้องรอให้ พงส ส่งเรื่องให้ ปปช ชี้มูลอีกครั้งก่อนที่จะสั่งฟ้อง งานนี้คงไม่นานเกินรอกันนะครับ