วันที่ 14 มิ.ย. 2567 ผู้เสียหายหญิงวัย 39 ปี นำมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน จะได้ยินเสียงเพลงดังสนั่น และมีเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นกว่า 10 นัด เธอบอกว่า เสียงดังแบบนี้ทุกเสาร์ อาทิตย์ โชคดีหน่อยจะเลิกตอน 6 โมงเย็น แต่ก็รบกวนวันหยุดของชาวบ้านที่ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ วันเสาร์ อาทิตย์อยากหยุดพักผ่อน กลับต้องมาเจอเสียงแบบนี้ เรียกว่าคนที่มีบ้านอยู่หลังวัดต้องทนเจอเหตุการณ์แบบนี้มาตลอด

เธอบอกว่า บ้านของเธออยู่ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ห่างจากวัดชื่อดังแห่งนี้ราว 500 เมตร อาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปี แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา วัดจะมีกิจกรรมงานบวชในเกือบทุกเสาร์อาทิตย์ ซึ่งขั้นตอนการแห่นาคเข้าวัด ส่งเสียงดังอึกทึกอย่างมาก บางครั้งดังตั้งแต่คืนวันศุกร์ต่อเนื่องเช้าวันเสาร์และเช้าวันอาทิตย์ ทำให้เธอและครอบครัวรวมถึงลูกน้อยวัย 2 ขวบ นอนไม่ได้ บางครั้งมีเสียงปืนทำให้ผวากลัวกระสุนจะมาตกที่บ้านวันไหนก็ไม่รู้

ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปพบกับเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เพื่อแจ้งปัญหาที่คนในชุมชนต้องพบเจอ ซึ่งทางวัดก็รับเรื่องไปและก็เงียบไประยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาดังเช่นเดิม นอกจากนี้จากที่สังเกตยังพบว่า หากคนที่มาบวชเป็นลูกหลานคนมีชื่อเสียงในพื้นที่ เสียงกิจกรรมดังกล่าวจะยิ่งดังมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่า

พอแจ้งตำรวจให้มาตักเตือน ก็จะเบาเสียงแค่ช่วงหนึ่ง พอตำรวจไปก็เปิดเสียงดังอีก และเปิดดังกว่าเดิมคล้ายกับการประชด ซึ่งตำรวจก็บอกว่ามีคนมาร้องเรียนแบบนี้หลายคน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แนะนำให้มาร้องสื่อมวลชน จึงตัดสินใจมาร้องกับนาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

นาย เอกภพ ระบุว่า เข้าใจแจ้งทางเจ้าภาพที่จัดงาน แต่ก็อยากให้เจ้าภาพหรือวัด เข้าใจบริบทของชุมชนด้วย อยากให้เห็นใจพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับวัด ว่าประชาชนเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนจากกิจกรรมทางเสียงของพวกคุณ และการใช้เครื่องเสียงก็ไม่เคยไปขออนุญาตที่สำนักงานเขตทวีวัฒนาด้วย ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งสำนักงานเขต และตำรวจจึงไม่เข้ามาดำเนินการกับกลุ่มผู้ใช้เครื่องขยายเสียงที่ทำผิดกฎหมายแบบนี้ หลังจากนี้จะประสานงานไปที่ผู้กำกับการ สน.ธรรมศาลา ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา และสำนักพุทธศาสนา เพื่อให้เค้าช่วยมากำกับดูแลปัญหานี้