เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาวอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เผยว่าลูกชาย อายุ 12 ปี ถูกพระลูกวัดที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใช้กำปั้นต่อยใบหน้าลูกชายจนช้ำ จึงพาลูกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และจะเข้าไปแจ้งความที่สภ.ทุ่งฝาย

โดยลูกชายอ้างว่า เมื่อช่วงเกือบ 5 ทุ่มคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พระรูปดังกล่าวได้แชตมาหา ขอให้ซื้อบุหรี่ให้เพราะทำบุหรี่ตกน้ำ ตนเองบอกว่าไม่มีเงิน และบอกว่ากำลังเล่นเกมอยู่ กระทั่งประมาณเกือบ 6 โมงเช้าเมื่อวานนี้ ตนเองจะไปช่วยพระอีกรูปบิณฑบาตร ระหว่างที่เล่นเกมรอ เพื่อจะไปบิณฑบาตรนั้น พระรูปดังกล่าวก็เข้ามาหา และต่อว่าตนเองแถมได้กระชากคอเสื้อ ก่อนจะใช้หมัดต่อยที่ใบหน้าตนเอง 1 ครั้ง จนตนเองล้มลงกองกับพื้น และต่อมาพระยังถือมีดมาขู่ตนอีก ตนจึงนำเรื่องมากบอกแม่

ด้านนางเอ (นามสมมุติ) แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองก็ไม่ได้เข้าข้างลูก แต่ด้วยความเป็นแม่ เมื่อเห็นลูกถูกทำร้ายแบบนี้คงไม่มีใครยอม และตนเองอยากถามว่าคนเป็นพระ ซึ่งมีจิตใจเมตตา และต้องมีความยั้งคิดมากกว่าชาวบ้าน เพราะอยู่ในผ้าเหลือง แต่ทำไมพระรูปนี้ถึงมาต่อยหน้าลูกชายตนเองจนช้ำแบบนี้

ตอนที่ทราบเรื่องก็ไปหาพระที่สำนักสงฆ์ และต่อว่าพระไปหลายคำ เพราะโมโห และเมื่อขอทราบเหตุผล พระตอบว่าโมโหที่เด็กนินทา และเด็กไม่เชื่อฟัง ซึ่งฟังไม่ขึ้น และยังบอกอีกว่าจะทำอะไรก็ทำ ตนเองเลยพาลูกไปตรวจร่างกาย และไปแจ้งความที่สภ.ทุ่งฝาย

จากการสอบถามพระคู่กรณี อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ไม่อยากที่จะตอบโต้อะไร เพราะน้องเขายังเป็นเด็ก แต่ยอมรับว่าได้กระชากคอเสื้อและตบหน้าน้องไป 1 ครั้งจริง เพื่อสั่งสอนเนื่องจากตอนนั้นทนไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาน้องมาที่วัดสร้างปัญหาให้วัดมากมาย ทั้งเรื่องลักเล็กขโมยน้อย กินไม่ล้าง และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาก็พยายามสอน และขัดเกลาเด็กให้เขาไปคนดี

แต่เด็กไม่ยอมฟัง และยังลอยหน้าลอยตาเหมือนท้าทายตลอด แต่ก็อดทนเรื่อยมา จนวันที่เกิดเหตุเด็กเล่นเกมเสียงดัง และยังนินทาตนเองอีก จึงเข้าไปปราม แต่เขาไม่สำนึกเลยกระชากคอเสื้อ และตบหน้าไป 1 ครั้ง แต่ไม่ได้ต่อยเด็กตามที่เด็กอ้าง และยืนยันว่าไม่ได้โมโหเด็กเรื่องที่ขอให้ซื้อบุหรี่แต่อย่างใด