หนุ่มพาหมาพันธุ์โหด มาเลี้ยงในหมู่บ้าน อ้างไม่กัดคน ก่อนหลุดออกจากกรง ขย้ำชาวบ้านสาหัส ลุงวัย 63 หูขาด
วันที่ 8 มิถุนายน 2567 มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุ นายวิชัย กันภัย อายุ 63 ปี ชาวบ้านม่วงหมาก ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ถูกสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่กัดบริเวณศีรษะ โหนกแก้ม ใบหูทั้งสองข้าง และท้ายทอยมีรอยเขี้ยวขย้ำ อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่รพ.สุรินทร์ จึงไปที่รพ.สุรินทร์ ตึกอุบัติเหตุ พบนายวิชัย กันภัย ผู้บาดเจ็บนอนพักอยู่ที่เตียงพยาบาล ข้างเตียงมีญาติเฝ้า จึงสอบถามจนทราบที่อยู่
ที่บ้านม่วงหมาก ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี พบนางสมบูรณ์ บุญเจริญ เจ้าของร้านค้า เล่าว่า ในช่วงเวลาตีสามตีสี่ ของทุกวัน ตาวิชัยจะมานั่งรอตนเปิดร้านค้าเพื่อซื้อกาแฟกระป๋องเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงตาวิชัยร้องเรียกอยู่นาน นึกว่าตาวิชัยมาขอซื้อกาแฟ จึงหยิบกระป๋องกาแฟให้ แต่พบว่าตาวิชัยมีเลือดอาบทั่วใบหน้าจึงรีบเปิดประตูออกมาดูถามว่าเป็นอะไร ได้รับคำตอบจากตาวิชัย ว่าถูกสุนัขกัด และยังเห็นสุนัขตัวดังกล่าวเดินตามลุงวิชัยมาด้วย จึงถือไม้มาไล่สุนัขไป พอตนตั้งสติได้จึงรีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพ อบต.ธาตุ ให้มาช่วยเหลือ ซึ่งกู้ชีพได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตาวิชัยส่งโรงพยาบาลรัตนบุรี และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสุรินทร์
นางทองคำ กันภัย อายุ 59 ปี น้องสาวตาวิชัย เล่าว่า นายวิชัย เป็นคนตื่นเช้าประมาณ 03.00 น. แล้วจะไปที่ร้านค้าเจ้าประจำเพื่อซื้อกาแฟกิน ในวันเกิดเหตุนายวิชัยมาที่ร้านค้าตามปกติ ไม่รู้เลยว่าสุนัขอเมริกันบูลลี่หลุดออกมา พอนายวิชัยเดินผ่านมาหน้าบ้านคนเลี้ยงสุนัข สุนัขได้วิ่งเข้าขย้ำนายวิชัย ซึ่งเจ้าของสุนัขได้เข้ามาพูดคุยกับตนแล้ว แต่ต้องรอนายวิชัยผู้รับบาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยมาเจรจากันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกที
ส่วนสุนัขอเมริกันบูลลี่คู่นี้ (มี 2 ตัว) เคยหลุดออกไปกัดไก่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุหลายคนได้ยินเสียงสุนัขกัดกัน คาดว่าสุนัขในละแวกจะออกมาเห่าไล่สุนัขอเมริกันบูลลี่ที่กำลังรุมขย้ำนายวิชัย จนทำให้สุนัขยอมถอยเข้ากรง ก่อนที่นายวิชัยจะหอบสังขารไปขอความช่วยเหลือจากร้านค้า
ขณะที่นางทองจันทร์ อายุ 71 ปี คุณยายเจ้าของสุนัข เล่าว่า สุนัขอเมริกันบูลลี่ที่ก่อเหตุ หลานชายของตนได้นำมาฝากเลี้ยงจำนวน 2 ตัว ซึ่งตนและหลานชายได้เลี้ยงไว้ประมาณ 5 เดือนแล้ว โดยทำกรงเหล็กกั้นไว้ ทุกวันหลานชายจะทำหน้าที่ดูแลให้ข้าวให้น้ำ แต่ในวันเกิดเหตุคาดว่าสุนัขอเมริกันบูลลี่ทั้ง 2 ตัว หลุดออกจากกรงและวิ่งเข้าไปขย้ำตาวิชัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ มาทราบตอนเจ้าของร้านค้ามาเรียกให้ไปดู ส่วนตัวจะไม่กล้าเข้าใกล้และไม่เคยให้อาหารเพราะรู้สึกกลัว หลังจากเหตุการณ์นี้ก็ไม่อยากให้เลี้ยงที่บ้านแล้ว กลัวเด็กๆ ข้างบ้านจะโดนกัด
ส่วน นายวรากร พิศเพลิน อายุ 19 ปี เล่าว่า สุนัขทั้ง 2 ตัวนั้นตนเป็นคนเลี้ยง เป็นสายพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไม่ใช่พิตบูล ตัวที่ออกมาทำร้ายคุณตามีชื่อว่าน้องบิลลี่ อายุ 1 ปี 1 เดือน น้ำหนัก 53 กิโลกรัม ซึ่งก่อนที่จะเอามาเลี้ยงที่นี่ เจ้าบิลลี่ได้กัดวัวแม่พันธุ์จนเจ็บสาหัสจึงนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านหลังนี้ โดยจะให้อาหารเป็นกิน 2 มื้อ ไก่ต้มวันละ 2 ตัวและเนื้อต้ม โดยจะขังบิลลี่ไว้ในกรงตลอดเวลา ซึ่งสุนัขอเมริกันบูลลี่แบ่งออกเป็นสองสายหลัก คือ สายกัด และสายโชว์ โดยตัวของตนนั้นจะอยู่ในสายโชว์ ในช่วงกลางวันสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ หรือน้องบิลลี่จะไม่กัดใคร ส่วนมากจะคอยปกป้องรักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าของ ส่วนถ้าเป็นกลางคืน ใครเข้าใกล้บ้านหรือเข้ามาที่บ้านไม่ได้เลย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องรอให้นายวิชัย ผู้รับบาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยมาเจรจาในการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ขณะนี้ได้นำสุนัขทั้ง 2 ตัวไปไว้ที่นา รอทำกรงใหม่ที่แน่นหนาให้เสร็จ และจะหามาตรการป้องกันให้ดีกว่านี้
ด้าน ร.ต.อ.วิษนุ ศรีทะโร รอง สว.สอบสวน สภ.ดอนแรด อ.รัตนบุรี ได้มาสอบสวน โดยเรียกญาติของนายวิชัยผู้รับบาดเจ็บ และนางทองจันทร์ เจ้าของสุนัข พร้อมกับนายวรากรมาพูดคุยกัน จึงได้ข้อสรุปว่าต้องรอให้ผู้รับบาดเจ็บออกมาจากโรงพยาบาลก่อน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าของสุนัขอเมริกันบูลลี่ทั้ง 2 ตัว จะรับผิดชอบเยียวยาและออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ทั้งหมด