ทนายความเปิดใจ หลังถูกดูดเงินเกือบ 1.2 ล้าน เผยกลโกงมิจฉาชีพทำให้หลงเชื่อ

ทนายความเปิดใจ หลังถูกดูดเงินเกือบ 1.2 ล้าน เผยกลโกงมิจฉาชีพทำให้หลงเชื่อ

จากกรณีทนายชื่อดังในพื้นที่ จ.ราชบุรี บุกไปประท้วงใช้อุจจาระราดตัว หน้าธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกดูดเงินออกจากบัญชีจนหมดตัว 1.2 ล้านบาท ล่าสุด ทนายนพ อายุ 71 ปี ทนายความชื่อดังในพื้นที่ จ.ราชบุรี เล่าว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง โทรศัพท์มาติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท อ้างว่า ทำเอกสารสำนวนคดีของลูกความที่ส่งมาจาก จ.สุรินทร์ เสียหาย เพราะรถจักรยานยนต์พนักงานขนส่งล้ม พร้อมขอเลขที่บัญชีและส่งลิงก์ให้กดรับเงินค่าเสียหาย

ซึ่งที่ผ่านมาทนายนพ ก็เคยได้รับสายโทรศัพท์และลิงก์จากมิจฉาชีพแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยหลงเชื่อ เพราะรู้เท่าทัน แต่ครั้งนี้มิจฉาชีพใช้เรื่องงานที่เป็นสิ่งที่ตังเองให้ความสำคัญมากมาหลอกล่อ และยังไปสอดคล้องกับเหตุการณ์จริง เพราะก่อนหน้านี้ลูกความที่ จ.สุรินทร์ ได้ส่งเอกสารสำนวนคดีมาให้จริง แต่ถูกตีกลับ จึงเข้าใจว่าลูกความอาจจะส่งเอกสารมาให้ใหม่อีกครั้ง ทำให้หลงเชื่อกดลิงก์ และเงินได้ถูกถอนออกจากบัญชีธนาคารภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีรวม 2 ครั้ง ครั้งแรกยอด 499,999 บาท และครั้งที่ 2 อีก 630,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,129,999 บาท

ทันทีที่รู้ว่าถูกหลอกก็รีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี ตำรวจให้ความช่วยเหลือรีบดำเนินการไปตำรวจไซเบอร์ให้อายัดบัญชีปลายทาง และเดินทางไปขอข้อมูลรายละเอียดการเคลื่อนไหวภายในบัญชีธนาคารทั้งหมดของตนเอง เพื่อจะได้ตรวจสอบบัญชีปลายทาง แต่ทางธนาคารกลับบอกว่า ไม่สามารถให้ได้ เพราะเป็นความลับของลูกค้า ตำรวจจึงต้องพาไปกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือที่ร้านโทรศัพท์ จนได้ข้อมูลบัญชีพร้อมเพย์ปลายทางที่รับโอนเงินไป แต่ก็ไม่ทันการ เงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีอื่นแล้ว

ทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากธนาคาร เพราะก็เป็นลูกค้าเหมือนกัน แต่ถูกหลอกดูดเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดการทำงานเป็นทนายความ 40 ปี จนหมดตัว แต่ธนาคารกลับไม่ช่วยเหลือ จึงตัดสินใจเตรียมอุจจาระไปราดประท้วงธนาคารตามที่เป็นข่าวดัง ที่ผ่านมานอนร้องไห้ทุกคืน เพราะรู้สึกสิ้นหวัง และพยายามจะกระโดดตึกตายมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารจากสำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ติดต่อมาแล้ว แต่บอกว่า ไม่ใช่ความผิดของธนาคาร และธนาคารได้พยายามป้องกันมิจฉาชีพแล้วหลากหลายทาง แต่มิจฉาชีพก็มีอุบายรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ ตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับลูกค้าอย่างมาก จึงเสนอให้ระยะเวลาธนาคารหารือแนวทางการช่วยเหลือ 2 สัปดาห์ หากวันที่ 18 มิถุนายนนี้ไม่คืบหน้า ก็จะตัดสินใจไปจบชีวิตตัวเองที่หน้าธนาคาร

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ