เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายแผน ชาวบ้านหมู่ 9 บ้านดอน ต.บ้านดอน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ร้องเรียนว่า 2 สาว แอบฉกเงินที่เก็บสะสมไว้ทั้งชีวิตเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และไว้เป็นทุนซื้อยารักษาโรคประจำตัวเอง ภรรยาที่ป่วยติดเตียง เมื่อเวลา10.30 น.ของวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นทางญาติๆ ได้พาคุณตาแผน วัย 86 ปี เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านเพชรแล้ว

นายแผน อายุ 86 ปี ที่กำลังเฝ้า นางสร้อย อายุ 85 ปี ผู้เป็นภรรยา ที่ป่วยติดเตียงนอนอยู่ภายบ้าน พร้อมพบกับลูกสาว นางทองทิพย์ อายุ 65 ปี และญาติที่นั่งเฝ้าอาการป่วย นางสร้อย อยู่ไม่ห่างภายในบ้าน

ก่อนที่ นายแผน ได้นำเดินดูบริเวณบ้านและจุดที่นอน เก็บกระเป๋าสตางค์แบบคาดเอวไว้ที่ใต้ที่นอน และประตูทางเข้าหลังบ้านที่คาดว่า 2 สาวคนร้าย จะแอบย่องเงียบเข้ามาฉกเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต จำนวน 150,000 บาท เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยารักษาตัวเอง และเป็นทุนไว้ทุนดูแลภรรยาที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 5 ปีแล้ว

นายแผนกล่าวว่า ซึ่งในวันเกิดเหตุ ได้มีหญิงสาวลักษณะท้วม อายุประมาณ 25-30 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีเทาใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมหมวกกันน็อกแบบเปิดคางสีเทาดำ ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า คลิก 160 i สีขาว สาวอีกคนใส่เสื้อแขนยาวลายสก็อต ใส่หมวกกันน็อกครึ่งใบสีเทา ขับมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนเดินมาพูดคุยและตีสนิทขอเข้าบ้าน ซึ่งทำทีจะมาขอซื้อกระติบข้าวสานจากไม้ไผ่ ที่คุณตานั่งจักสานอยู่ที่บ้านก่อนพูดคุยจนสนิท และกล่าวอ้างว่าเป็นลูกหลานของญาติที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

พร้อมบอกว่า ก่อนจะแวะเอาลอตเตอรี่มาส่งให้คนสั่งซื้ออยู่ในหมู่บ้านนี้ 20 ชุด เลยแวะมาขอซื้อกระติบข้าวจากคุณตาก่อน ในขณะที่ตากำลังนั่งดูและภรรยาที่ป่วยติดเตียงด้วยโรคชรา ก่อนหญิงสาวคนหนึ่งได้ออกอุบายบอกตาว่าปวดฉี่และขอเดินไปหลังบ้านว่าจะเข้าไปฉี่ในป่ากล้วยหลังบ้าน โดยให้หญิงอีกคนนั่งพูดคุยอยู่กับคุณตาคุณยายที่หน้าบ้าน สักพักหญิงที่เข้าไปฉี่ได้เดินกลับมา

และคุยกับเพื่อนที่นั่งรออยู่หน้าบ้าน บอกว่าจะรีบไปส่งลอตเตอรี่ ให้ลูกค้าในหมู่บ้าน จากนั้นทั้งสองก็ได้เดินออกจากบ้านและไปขึ้นขี่ จยย.ดังกล่าวที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ออกจากบ้านคุณตาไป ไม่นานคุณตาเกิดเอ๊ะใจ จึงได้เดินตามไปที่บ้านเพื่อนบ้านหลังที่ 2 สาวอ้างว่าจะมาส่งลอตเตอรี่ให้ ได้สอบถามว่ามีคนมาส่งลอตเตอรี่หรือไม่ ได้คำตอบว่าไม่มีใครมาและไม่ได้สั่งซื้อลอตเตอรี่แต่อย่างใด

นายแผนกล่าวต่อว่า จึงได้รีบกลับมาที่บ้านเข้าไปดูกระเป๋าสตางค์ ที่ตนเองเก็บเอาไว้ใต้ที่นอนภายในบ้าน เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเงินในกระเป๋าหายไปหมดแล้ว พร้อมพระเก่าแก่ติดตัวมานานหายไปอีกด้วย

จากนั้นจึงได้บอกลูกๆ ว่ามีผู้หญิง 2 คนมาพูดคุยและแอบย่องเข้าหลังบ้านขโมยเอาเงินกว่า 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) หายไป คาดว่าคนร้ายนั่งสังเกตดูตนเองตอนไปหยิบกระเป๋านำเงินออกมาจ่ายค่าตัดผม จากนั้นคนร้ายจึงออกอุบายทำทีปวดฉี่และแอบเข้าไปเอาเงินที่ตนเองกับยายเก็บมาทั้งชีวิตหายไปในครั้งนี และอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่เร่งช่วยตามจับกุม 2 สาวคนร้ายโดยเร็วหวั่นไปก่อเหตุซ้ำกับคนอื่นอีก

ขณะที่ นางทองทิพย์ อายุ 65 ปี ลูกสาวนายแผน ผู้เสียหาย บอกว่า 2 สาวก่อเหตุครั้งนี้ นับว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุม 2 สาวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก