เเม่เหนื่อยใจ ไม่พอใจผลการเรียนลูก
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยคุณเเม่ท่านหนึ่งได้มีปัญหาทุกข์ใจ เรื่องผลการเรียนของลูกสาว ที่ได้น้อยกว่าเพื่อนๆ จนมาเเชทปรึกษาหาเเนวทาง เเละทางออก สำหรับเรื่องราวดังกล่าว ดังต่อไปนี้ จนเกิดกระที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ตามมาอย่างมากมาย โดยได้ระบุข้อความว่า
เหนื่อยใจค่ะ ลูกจะขึ้นม 5 เเล้ว เเต่ไม่เอาไหนเรื่องเรียนเลย ลูกคนอื่นเกรด 3จุด5ขึ้นกันหมด เเต่ลูกเราได้ 3จุด25 ได้มากกว่าเทมอเเรกนิดนึง ตอนนั้นได้ 3จุด00 เอง กังวลมากๆ ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ส่งเรียนพิเศษก็เเล้ว ตามงานเค้าก็เเล้ว ยังได้เท่านี้ เลยบอกว่า ถ้าปิดเทมอนี้ ต้องอ่านหนังสือนะ ไม่งั้นจะตัดอินเทอร์เน็ต สรุปคือนางไม่สนใจคำพูดของเราเลย วันๆเอาเเต่ดูซีรีส์ การ์ตูน หนังสือไม่อ่าน เลยคิดอยู่ว่าจะตัดเน็ตจริงๆ ไปเลย อยากลองดัดนิสัยลูกสักหน่อย เเอดว่า ถ้าเราทำงี้จริง มันจะเกินเรื่องไปไหมคะ
ด้านความคิดเห็น คอมเม้นต์ของผู้คนในโลกออนไลน์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ก็ได้มีอย่างมากมาย เรื่องของผลการเรียนนั้น อาจจะไม่ใช่ตัดชี้วัดที่สำคัญที่สุด ที่ลูกได้เกรดขนาดนั้น ก็ถือว่าเยอะเเล้วถ้าดูเคสนี้แล้ว ควรตัดเน็ตแม่ก่อนเลยครับ ตามด้วยดัดนิสัยแม่ด้วย ก็เป็นผลดีต่อลูก แต่ถ้าเกิดผมเป็นลูกผมจะไม่ค่อยอยากคุยกับแม่เท่าไหร่ เหมือนคุยแล้วรู้สึกว่าผู้ใหญ่ฝากความหวังความกดดันตลอดเวลา ก็ไม่อยากคุย
ลูกผมเกรด 2จุด1 เขาบอกโตขึ้นอยากเป็นหมอ ผมเลยแนะแนวว่าให้เริ่มจากการดูดวงสะเดาะเคราะห์ก่อน ค่อยเริ่มสักยันต์กับปลุกเสก พี่สาวเราเรียนเลขติด 0 ทุกปี พ่อก็พูดทุกปีบอกว่า เก่งแล้วลูก อย่างน้อยลูกก้อทำให้เพื่อนไม่ต้องสอบตก มันสอบได้ที่โหล่ของห้อง ทุกวันนี้สอบติดเป็นอัยการไปแล้ว เพราะบอกว่าจะทำความฝันพ่อให้เป็นจริง
หยุดเอาลูกคุณไปเปรียบกับคนอื่น เวลาคุณแก่เฒ่ามาลูกคนอื่นไม่ได้เลี้ยงคุณ เวลาตัวป่วยลูกคนอื่นก็ไม่ได้มาดูแลคุณ เวลาคุณตายลูกคนอื่นก็ไม่ได้มาเผาผีคุณ แล้วจะเอาลูกตัวไปเปรียบกับผู้อื่นทำไม คิดถึงใจลูกบ้าง ว่ามันกดดันขนาดไหน เกรดไม่ใช่ตัวชี้วัดชีวิต พ่อแม่มีหน้าที่สนับสนุนในสิ่งที่ลูกเลือก ในสิ่งที่ลูกชอบ ในสิ่งที่ลูกเป็น ในสิ่งที่ลูกทำไม่ใช่บังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ หรืออยากเป็นซะเอง อย่าลืมว่าชีวิตลูกไม่ใช่ชีวิตคุณ
เรียบเรียง mumkhao