เตือนแล้วไม่ฟัง เจ้าของนาเผาฟางข้าว ลุกลามติดบ้านเช่าไหม้วอดทั้งหลัง

เตือนแล้วไม่ฟัง เจ้าของนาเผาฟางข้าว ลุกลามติดบ้านเช่าไหม้วอดทั้งหลัง

2 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 16.00 น. วานนี้(1 เม.ย.) เกิดเหตุไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี รถดับเพลิงจากเทศบาลสวนแตง และ อบต.ศาลาขาว อบต.ใกล้เคียง และสมาคมร่วมใจสวนแตง มาช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านพร้อมทรัพย์สินในบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด โดยที่บริเวณทุ่งนาหลังบ้านมีร่องรอยไฟไหม้ฟางจากในนาแล้วลามเข้ามาที่บ้าน

สอบถามนายนิพนธ์ อายุ 41 ปี เล่าว่าตนและภรรยาได้มาเช่าบ้านหลังนี้เปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า ส่วนภรรยาก็ทำขนมขายส่ง ตนมาเช่าอยู่หลายปีแล้วแต่ไม่เคยเกิดเหตุร้าย กระทั่งวันนี้ขณะกำลังทำงานอยู่ในบ้าน ได้กลิ่นเหม็นควันไฟมาจากทางหลังบ้านจึงออกไปดู เห็นไฟกำลังไหม้มาจากทุ่งนาหลังบ้านแล้วลุกลามเข้ามาไหม้กอกล้วย ก่อนจะลามเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว

ตนพยายามเปิดก๊อกน้ำใช้สายยางฉีดแต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับแต่ไม่ทัน ไฟได้ไหม้บ้านวอดหมดทั้งหลัง หลังจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยค้นหาทรัพย์สินเบื้องต้นเหลือ หลวงปู่ทวด ที่ตนบูชาหนึ่งองค์ ส่วนเงินสด 50,000 บาท พร้อมเครื่องประดับทองรูปพรรณ ของภรรยาตนไม่ทราบว่ามีเท่าไหร่ถูกไฟไหม้ทั้งหมด อยากฝากเจ้าของนาเวลาจะเผาช่วยดูทิศทางลมด้วย อยากให้มารับผิดชอบชดใช้ทรัพย์สินที่เสียหาย ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ดีแย่มาก ไฟไหม้บ้านหมดไม่เหลืออะไรเลย

ทางด้านนางพรศิล อายุ 48 ปี ภรรยาของนายนิพนธ์เล่าว่าทรัพย์สินที่เสียหายในกองเพลิงประกอบด้วยตู้แช่ 3 ตู้ แอร์ 2 เครื่อง และเครื่องซักผ้า 4 เครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า เงินสด 50,000 บาท แหวนเพชร ราคา 200,000 กว่าบาท 3 วง ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 2 บาท เครื่องประดับอื่นอีกหลายรายการ ถูกไฟไหม้หมด

ความคืบหน้าล่าสุด นางพรศิลบอกว่าหลังเกิดเหตุเจ้าของนา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่าด้วย ได้มานำข้าวสารมาให้ครึ่งกระสอบ และมอบเงินให้ 10,000 บาท บอกว่าให้ไว้ใช้จ่าย พร้อมกับบอกว่าขอโทษ ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายอื่นๆ ยังไม่ได้มีการพูดคุย และวันนี้พนักงานสอบสวน ได้นัดให้ตนไปสอบสวนปากคำ เพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าของบ้านเช่าได้ให้ตนและครอบครัว เข้าไปนอนในบ้านชั่วคราว หลังจากนี้ตนคงต้องไปหาที่นอนอื่น

ก่อนเกิดเหตุสามีเห็นคนเผาและได้เดินไปบอกแล้วว่าอย่าเผา คนที่ก่อเหตุบอกว่าไม่เป็นไรหรอก จากนั้นก็ยังจุดต่อจนเกิดเรื่องขึ้น ครอบครัวตนหมดแล้วไม่เหลืออะไรแล้ว ตนไม่รู้จะปรึกษาใครกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้ผู้ก่อเหตุรับผิดชอบค่าเสียหาย ซึ่งมีทรัพย์สินเครื่องมือทำมาหากินหลายรายการที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เป็นเงินหลายแสนบาท

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ