จากกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์ที่เจ้าของร้านใช้ไม้เรียวฟาดก้นพนักงานอย่างแรงจำนวนหลายครั้ง เพื่อทำโทษที่พนักงานมาสาย ซึ่งเจ้าของคลิปได้อธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีการอ้างว่าพนักงานไม่อยากถูกหักเงิน จึงทำโทษด้วยการตี

ล่าสุด ที่ถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่าร้านอยู่ในช่วงปิดบริการแล้ว มีกลุ่มพนักงานบางส่วนอยู่ภายในร้าน ส่วนตัวหญิงสาวในคลิปซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว

น้องบอย อายุ 18 ปี พนักงานชาย (ผู้อยู่ในคลิป) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปตนเองโดนตีเพราะว่ามาสาย โดยปกติตามกฎของร้าน คือ หักเงินมาสายนาทีละ 5 บาท ซึ่งพนักงานมาสายเป็นประจำ ไม่ค่อยเหลือเงินเดือน พนักงานและทางร้านจึงลงความเห็นคิดวิธีทำโทษใหม่ ด้วยการตี แบบแม่ตีลูก หรือคุณครูตีนักเรียน หากมาสาย 10 นาที จะโดนตี 1 ครั้ง ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่ยินยอมถูกตี มากกว่าให้หักเงิน วันนั้นตนเองมาสายกว่า 40 นาที จึงถูกตีตามคลิปดังกล่าว ซึ่งในช่วงเกิดเหตุมีพนักงานหลายคนที่ถูกตี ไม่ใช่ตนเพียงคนเดียว

ส่วนกระแสโซเชียลที่มองว่า พี่เจ้าของร้านใช้ความรุนแรงนั้น อยากให้มองใหม่ว่า ปกติเจ้าของร้านนิสัยดี ไม่ใช่อารมณ์รุนแรงแบบในคลิป แต่ที่ต้องตี เพราะไม่อยากหักเงินพนักงาน อยากให้พนักงานมีเงินเหลือใช้ เหมือนแม่เป็นห่วงลูก ยืนยันว่า "ไม่ใช่คนใจร้ายแน่นอน"

อีกทั้งด้าน น.ส.ยุ ผู้จัดการร้าน ได้นำสมุดลงชื่อมาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบว่า พนักงานได้ลงชื่อยินยอม ก่อนถูกทำโทษ ไม่ว่าจะเป็นตี หรือ หักเงิน

ด้านน้องแนน อายุ 22 ปี พนักงานเสิร์ฟหญิงอีกราย เปิดเผยว่า ปกติพี่เจ้าของร้านเป็นคนใจดี ไม่เคยตีหรือกระทำรุนแรง แต่พนักงานดื้อมาสายกันบ่อยครั้ง เจ้าของจึงให้เลือกระหว่างหักเงินกับถูกตี ซึ่งตนเองและเพื่อนพนักงานยินยอมให้ถูกตีดีกว่า ซึ่งวันนี้ทุกคนที่มาสายถูกตีทำโทษทุกคน ไม่ใช่น้องบอยเพียงคนเดียว สุดท้ายขอยืนยันอีกเสียงว่าพี่เจ้าของร้านเป็นคนใจดีมาก คอยช่วยเหลือพนักงานตลอด ทั้งนี้ขอร้องให้กระแสโซเชียลอย่าว่า อย่าทัวร์ลงพี่เจ้าของร้าน เพราะพวกตนยินยอมที่จะถูกตีเอง