เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2567 ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 2 ว่า ขอยืนยันว่า จะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำรอบที่ 2 เป็นของขวัญสงกรานต์ให้กับผู้ใช้แรงงานแน่นอน โดยในวันที่ 27 ก.พ. ช่วงเช้า จะมีการประชุมอนุกรรมการในคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อพิจารณาเรื่องค่าจ้างที่จะมีการปรับเพิ่ม จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการค่าจ้างชุดใหญ่เพื่อพิจารณาสูตรปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำที่จะนำมาใช้ก่อนจะส่งให้อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดนำสูตรไปพิจารณาว่าพื้นที่ไหน สาขาอาชีพอะไรที่ควรได้ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทบ้าง ส่วนจังหวัดที่ที่เหลือก็ให้ใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ประกาศไปรอบแรกเมื่อปี 2566

นายพิพัฒน์ กล่าววว่า คนที่บอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะปรับค่าจ้าง 400 ขออย่าเพิ่งปรามาส จะทำสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มจะทำบางสาขาอาชีพ บางพื้นที่ 400 บาท ไม่ได้ทำทั้งหมด ต้องคำนึงถึง SME ที่มีการจ้างงานอยู่ประมาณ 80% หากมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท จะทำให้ SME ล้มหายตายจาก ซึ่งจากการหารือกรรมการชุด SME ระบุว่า จะมีผลกระทบไม่น้อยกว่า 30% หรือแรงงานประมาณ 6 ล้านคน ที่จะตกงาน บอกได้เลยว่า กระทรวงแรงงาน ไม่มีความสามารถรับผิดชอบ หรือหางานให้คนทำได้เยอะขนาดนั้นในขณะที่บริษัทหรือผู้ประกอบการปิดตัวลงคงเป็นภาระของรัฐบาลต่อ จึงค่อยๆ ประกาศ แต่ยึดถือนโยบายของรัฐบาล ในปีนี้จะมีการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท ในบางพื้นที่ และบางสาขาอาชีพ และปี 2570 จะเห็นค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาท แน่นอน แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกสายอาชีพ แต่ได้เฉพาะบางอาชีพ บางพื้นที่สามารถทำได้เท่านั้น จังหวัดไหน ที่สามารถทำได้ เชื่อว่ากรรมการไม่หน่วงเหนี่ยวค่าจ้างไว้แน่น่อน