เตือน! อย่าเอาไอโฟนตกน้ำ ไปแช่ในข้าวสาร

เตือน! อย่าเอาไอโฟนตกน้ำ ไปแช่ในข้าวสาร

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์บีบีซี รายงานว่า แอปเปิล ผู้ผลิตไอโฟน ได้ออกคำแนะนำว่า หากไอโฟนเปียกน้ำ อย่านำเครื่องเข้าไปแช่ในข้าวสารอย่างเด็ดขาด

ข่าวระบุว่า แม้ว่าคำเตือนลักษณะดังกล่าวจะมีมานานแล้วว่า วิธีดังกล่าวไม่ได้ผล แต่ก็ยังมีคนที่นำเครื่องไอโฟนที่เปียกน้ำไปแช่ในข้าวสารอยู่

โดยแอปเปิลระบุว่า แทนที่จะนำเครื่องไปแช่ในข้าวสาร ควรจะเคาะเครื่องเบาๆ เพื่อให้ของเหลวออกมา และให้บริเวณเชื่อมต่อของโทรศัพท์อยู่ด้านล่าง และปล่อยให้มันแห้งไปเอง

ทั้งนี้ แม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ จะมีความซับซ้อน แต่วิธีการในการซ่อมแซมเครื่องหากตกน้ำ เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด โดยแอปเปิดได้พยายามหาโอกาสในการบอกให้ผู้ใช้งานไอโฟน อย่านำเครื่องไปแช่ข้าวสารแห้งหลายต่อหลายครั้ง

นอกเหนือจากการแนะนำไม่ให้นำเครื่องไปแช่ในข้าวสารแห้งแล้ว ก็ยังแนะนำด้วยว่า ไม่ควรจะทำให้เครื่องแห้ง ด้วยการใช้แหล่งความร้อนอื่นๆ หรือแม้แต่คอมเพรสเซอร์ แอร์ รวมไปถึงหม้อน้ำ หรือแม้แต่เครื่องเป่าผม และยังแนะนำว่า ไม่ควรที่จะนำอุปกรณ์ใดๆ แหย่เข้าไปในเครื่อง เช่น ที่แคะหู หรือกระดาษทิชชู่

แต่ผู้ใช้ควรจะปล่อยให้เครื่องแห้งไปเอง ในสภาพอากาศที่มีการหมุนเวียนของอากาศ เมื่อเครื่องแห้ง จึงค่อยเชื่อมต่อเข้ากับที่ชาร์จไฟ

ทั้งนี้ เว็บไซต์ MacWorld ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่เห็นคำแนะนำดังกล่าวชิ้นใหม่ของแอปเปิล รายงานว่า การเปลี่ยนการออกแบบของสมาร์ทโฟน อาจจะหมายความว่า คำแนะนำดังกล่าวอาจจะไม่จำเป็นอีกในอนาคต เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งหลายที่ใช้อยู่ จะมีความสามารถในการทนน้ำมากขึ้น

ข่าวระบุว่า อุปกรณ์ของแอปเปิลทั้งหมด ตั้งแต่ ไอโฟน 12 เป็นต้นไป สามารถทนน้ำได้ระดับความลึก 6 เมตร นานถึงครึ่งชั่วโมง

แต่ด้วยแรงกดดันด้านค่าครองชีพ ได้กดดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนมือสองเติบโตขึ้น ซึ่งหมายความว่า อาจจะมีหลายต่อหลายคนที่ยังต้องการคำแนะนำว่า อะไรที่ควรทำ หรือไม่ควรทำ เมื่อสมาร์ทโฟนเปียกน้ำ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ที่เว็บของ studio7 หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Apple ในไทย เคยมีคำเตือนดังกล่าว พร้อมกับสาเหตุเอาไว้ว่า

Q : ทำไม iPhone ตกน้ำจึงห้ามนำไปแช่ข้าวสารค้างไว้

A : เมื่อ iPhone ตกน้ำอย่านำไปแช่ข้าวสารค้างไว้ เนื่องจากน้ำไม่สามารถระเหยออกมาได้ วิธีการที่ดีที่สุดในเบื้องต้น คือ เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องให้แห้ง และปิดเครื่องไว้ ห้ามชาร์ตแบต และรีบนำมือถือมาให้ช่างที่ศูนย์บริการ รับซ่อม โดยด่วนที่สุด เพื่อที่จะได้เช็ควงจรภายในและทำความสะอาดตัวเครื่อง ทางช่างจะพิจารณาอีกครั้งว่าต้องดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไร

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ