สาวหอบลูกสั่งของแล้วชิ่ง ก้มกราบเจ้าของร้าน ร่ำไห้อย่าจับหนูเลย

สาวหอบลูกสั่งของแล้วชิ่ง ก้มกราบเจ้าของร้าน ร่ำไห้อย่าจับหนูเลย

จากกรณีที่มีหญิงสาวขับรถจักรยานยนต์มากับลูกสาวและลูกชายที่ยังเล็กทำทีมาสั่งข้าวมันไก่ที่ร้านข้าวมันไก่อิ่มเย็น ตั้งอยู่เลขที่4 ถนน จันทร์นิเวศน์ 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา เมื่อวานนี้ โดยสั่งข้าวมันไก่ซุปเปอร์พิเศษ3กล่องและหยิบเค้กคีโตอย่างดี3ชิ้น รวมเป็นเงิน 649 บาท แต่ตอนที่เจ้าของร้านมาเก็บเงินอ้างว่าสามีที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านข้างๆจะมาจ่ายให้และขับรถออกไปทันทีเจ้าของร้านได้แต่ยืนงงๆ และได้เข้าแจ้งความที่ สภ หาดใหญ่ไว้ และจากเบาะแสพบว่าหญิงสาวรายนี้ใช้วิธีก่อเหตุแบบนี้กับร้านอาหารในเมืองหาดใหญ่มาแล้วหลายราย

ล่าสุดในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตำรวจชุดสืบสวน สภ หาดใหญ่ จังหวัด สงขลา สามารถติดตามจับกุมหญิงสาวรายนี้ได้แล้วชื่อว่า นางสาว อรุณศรี สังข์ทอง อายุ 36 ปี โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามไปจับกุมได้ที่บริเวณคอกวัว ในซอยผักบุ้ง ตำบล บ้านพรุ อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่ง นางสาวอรุณศรี ไปรับจ้างเลี้ยงวัวอยู่ และพักอาศัยอยู่กับลูกอีก3คนรวมทั้งสามีในบริเวณคอกวัว

หลังถูกจับกุมและนำตัวมาสอบสวน น.ส.อรุณศรี ถึงกับร่ำให้และสำนึกผิดขึ้นมาทันทีบอกว่าที่ทำไปเพราะความจำเป็นต้องการหาข้าวไปให้ลูกๆกินเนื่องจากไม่มีเงิน และหลังถูกจับกุมได้มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่เข้ามาชี้ตัวยืนยันเช่นเจ้าของร้านกุ๊กดำ ซึ่งเคยถูก นางสาวอรุณศรี พาลูกทั้งสองคนไปสั่งซื้ออาหารตามสั่งและสั่งแบบซุปเปอร์พิเศษเหมือนกันรวมทั้งสั่งหลายกล่องเป็นเงิน400กว่าบาท แต่ระหว่างที่ยืนอาหารให้ฉวยโอกาสขับรถออกไปเฉยๆ

และหลังจากที่เจ้าของร้านอาหารกุ๊กดำมาดูตัวก็ยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกัน และนางสาวอรุณศรี ถึงกับยกมือไหว้และก้มลงกราบเท้าเพื่อขอโทษและไม่ให้เอาเรื่องบอกว่าหากถูกจับจะไม่มีใครดูแลลูกๆทั้ง3คนแต่เจ้าของร้านอาหารกุ๊กดำไม่ยอมความรวมถึงเจ้าของร้านข้าวมันไก่อิ่มเย็นก็ไม่ยอมเช่นกัน สุดท้ายต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์และ นอกจากนี้ตำรวจเผยว่าก่อนหน้านี้ นางสาว อรุณศรี ก็เคยพาลูกไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านใน ตำบล บ้านพรุ แต่ก็ไม่มีเงินจ่ายเจ้าของร้านแจ้งตำรวจจะเอาเรื่องแต่ด้วยความสงสารเด็กตำรวจจึงยอมจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวและสั่งว่าอย่าทำอีก แต่ นางสาว อรุณศรี ก็ยังมาหลาบจำยังคงพาลูกไปสั่งอาหารและเชิดหนีอีก

ที่มา ตระเวนข่าวถึงที่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ