เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณสหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร มีชาวนาเกือบ 100 คน รวมกลุ่มกันเดินทางมาทวงและขอทราบความคืบหน้าการจ่ายเงินจากสหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน หลังจากที่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มีชาวนาวังทรายพูนกว่า 100 ชีวิต นำข้าวมาขายให้กับสหกรณ์แห่งนี้ และไม่ได้รับเงินเป็นจำนวนรวมแล้วกว่า 22 ล้านบาท ซึ่งพยายามมาทวงถามหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกผัดมาตลอด ขณะนี้เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากหนี้สินที่ไปซื้อปุ๋ย ยา จากร้านจำหน่ายในระบบเงินเชื่อ รวมถึงค่ารถไถนา ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าว และค่าเช่านายังไม่สามารถหาเงินไปใช้หนี้คืนได้ จนบางรายจะถูกยกเลิกการเช่าที่นา ต้องไปกู้เงินชาวบ้านมาให้เจ้าของที่นาก่อน

นายอารมณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านวังแสง อ.วังทรายพูน กล่าวว่า ตนนำข้าวมาขายให้กับสหกรณ์แห่งนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และยังไม่ได้เงิน ทำให้ในขณะนี้เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากติดค่าปุ๋ย ยา รถเกี่ยว รวมถึงค่าเช่าที่นา ซึ่งเจ้าของที่นาจะยกเลิกสัญญา ทำให้ตนจะไม่มีนาทำในฤดูกาลถัดไปในอีก 2 เดือนข้างหน้า ตนจึงจำเป็นต้องไปกู้เงินจากลูกบ้านมาใช้หนี้ให้กับเจ้าของที่นาก่อน

นางสุจินดา อินทรสุข ผู้จัดการสหกรณ์วังทรายพูน ได้เรียกประชุมสมาชิกสหกรณ์เพื่อขอมติในการกู้เงินจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 25 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้หนี้ให้กับชาวนา โดยคาดว่าหากได้รับอนุมัติเงินกู้จะสามารถจ่ายให้กับชาวนาได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

จากนั้น นางสุจินดายังได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ชาวนายังไม่ได้รับเงินว่า สหกรณ์ได้เปิดรับซื้อข้าวนาปีฤดูกาล 2566 โดยจะมีโรงสีในอำเภอทับคล้อ ส่งคนมารับซื้อ โดยสหกรณ์จะได้รับค่าบริการสถานที่ในราคาตันละ 150 บาท แต่ในการออกใบ/ใช้ใบประทวนของสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์กลายเป็นคู่ความจากชาวนา ส่วนโรงสีที่มารับซื้อข้าวได้มาใช้บริการที่สหกรณ์หลายปี และไม่เคยมีปัญหาเหมือนในครั้งนี้