อนุทิน สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

อนุทิน สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรฯ และ รมว.มหาดไทย ฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ได้มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ และกรุงเทพฯ ให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมและจัดให้มีแผนเผชิญเหตุสำหรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนปี 2567

ทั้งนี้เนื่องจาก บกปภ.ช.ได้ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงกลางเดือน ก.พ. และ มี.ค.จะมีอากาศร้อนอบอ้าวและแห้ง ร้อนจัดเป็นบางวัน ขณะที่บางช่วงมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลความร้อนที่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดอายุฤดูร้อนได้ โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางแห่งจะมีลูกเห็บตก ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตราย ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินประชาชนได้

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและลดผลกระทบต่อประชาชน ในด้านการเตรียมความพร้อมนั้นให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกับกำชับให้ผู้มีหน้าที่ในแต่ละระดับ เร่งตรวจสอบอาคาร สถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้างรวมถึงไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะ หากพบว่าไม่อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงต้องเร่งแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าดำเนินการซ่อมแซม ตลอดจนให้เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากรเครื่องจักรสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

นอกจากนี้ในคำสั่งยังได้กำชับในเรื่องการให้ความรู้ประชาชน ให้ทราบถึงแนวปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย อาทิ การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของที่พัก การป้องกันอันตรายจากกรณีฟ้าผ่า และกรณีต้นไม้ หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงล้มทับ รวมทั้งแจ้งช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ ตลอดจนมาตรการในการดูแลประชาชน ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย ในด้านการเผชิญเหตุนั้น เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดวาตภัยจากพายุฤดูร้อน ให้ดำเนินการเร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

กรณีที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้แบ่งภารกิจพื้นที่รับผิดชอบและบูรณาการหน่วยงาน เพื่อจัดทำปฏิบัติการเร่งเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนโดยเร่งด่วน ส่วนกรณีที่เกิดป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้นหรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไข ไม่ให้กีดขวางพื้นที่สาธารณะ และซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ