หลายคนไม่เคยรู้ มีคนไทย 24 ราย ครอบครองสิงโต 153 ตัว

หลายคนไม่เคยรู้ มีคนไทย 24 ราย ครอบครองสิงโต 153 ตัว

ภายหลังจากที่ในโลกออนไลน์เกิดกระแสดราม่า มีการเผยแพร่คลิปโซเชียลในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี พบเป็น สิงโตขาว นั่งในรถหรูเปิดประทุน ท่ามกลางรถราที่วิ่งขวักไขว่สัญจรไปมาก็มองดูสิงโตดังกล่าว เรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องความปลอดภัยนั้น

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งการนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว จากการตรวจสอบทะเบียนรถซึ่งบรรทุกสิงโตที่ปรากฏในคลิปวิดีโอข้างต้น คือ รถ bentley รุ่น continental gtc ในจังหวัดภูเก็ต ผู้ขับรถยนต์ที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวมีลักษณะเป็นชายศีรษะโล้น ผิวเข้ม สืบทราบว่าน่าจะเป็นชาวศรีลังกา ซึ่งไม่น่าจะเป็นนางอัจฉราพร โดยคาดว่าผู้ขับรถยนต์น่าจะซื้อหรือเช่ารถมาจาก TNP IMPORT CARS PHUKET โดยยังไม่ได้ทำการโอนรถเป็นชื่อของตัวเอง แต่นำมาขับขี่ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

นายอรรถพลกล่าวว่า ชุดเหยี่ยวดงได้ประสานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ร่วมกับตำรวจในท้องที่จังหวัดภูเก็ต เข้าดำเนินการสอบถามถึงผู้ที่เช่า หรือซื้อรถยนต์ดังกล่าวจากนางอัจฉราพรว่าเป็นบุคคลใด ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ โดยขณะนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้สั่งการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน ร่วมกับด่านตรวจสัตว์ป่า และตำรวจการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เข้าตรวจสอบบ้านของ น.ส.สว่างจิตร โกสูงเนิน ที่มีการแจ้งครอบครองสัตว์ป่าควบคุมไว้ในพื้นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)

นายอรรถพลกล่าวว่า สิงโต ถือเป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง โดยเป็นสัตว์ควบคุมชนิด ก. ผู้ขออนุญาตต้องมีมาตรการการควบคุมที่เข้มแข็ง เข้มงวด เพราะเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย อาจจะสร้างความหวาดกลัว หรือทำอันตรายแก่ผู้อื่นได้ หากไม่แจ้งมีการแจ้งการครอบครอง จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ หรือหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้มีผู้แจ้งการครอบครองสิงโตทั่วประเทศจำนวน 153 ตัว ทั้ง ที่เป็นบุคคลและสวนสัตว์เอกชน 24 ราย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ