เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567 ภายหลังนายวสุรมย์ สุริยะวงศ์ นักจัดรายการวิทยุ อสมท.เชียงใหม่ พบหอยทากตัวเล็กอยู่ในถุงขนมข้าวเกรียบยี่ห้อดัง ขณะกำลังหยิบข้าวเกรียบมารับประทาน พบว่ามีอะไรติดอยู่ตรงกลางชิ้นขนม ลักษณะคล้ายหอยทากขนาดเล็ก เมื่อนำมาวางบนโต๊ะแล้วใช้ไม้เขี่ยดู

ปรากฏว่าหอยทากยังมีชีวิตอยู่ ทำเอาตกใจว่าเข้าไปอยู่ได้อย่างไร จึงเทขนมออกจากถุงลงบนโต๊ะทั้งหมด พบมีเพียงตัวเดียวเดินไปมา โดยนายวสุรมย์ได้เก็บขนมถุงพร้อมหอยทากไว้ เพื่อให้บริษัทขนมดังกล่าวเข้ามาขอตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของขนม

นางโสภา คำริน ผู้ประสานงานบริษัทผู้ผลิตข้าวเกรียบกุ้งชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง เดินทางมาพบกับนายวสุรมย์ เพื่อขอหลักฐานเป็นถุงขนมและหอยทาก เบื้องต้นพบว่าข้าวเกรียบกุ้งซองดังกล่าวเพิ่งผลิตจากโรงงานเมื่อเดือน พ.ย. 2566 และจะหมดอายุในเดือน ก.ค. 2567 บริเวณถุงไม่พบรอยรั่วหรือรอยฉีกขาดในมุมอื่น

นางโสภา บอกเพียงสั้นๆ ว่าได้รับมอบหมายให้มาขอหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบตามขั้นตอน ส่วนตัวก็แปลกใจที่มีหอยทากเข้าไปปะปน ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อน จึงจะส่งตัวอย่างให้ทางฝ่ายผลิตตรวจสอบและแจ้งหนังสือชี้แจงให้กับผู้ร้องเรียนต่อไป

ด้านนายวสุรมย์ กล่าวว่า ขอให้ทางบริษัทช่วยตรวจสอบและชี้แจง เพราะเป็นเรื่องความรับผิดชอบต่อลูกค้าและผู้บริโภค ที่สำคัญอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้บริโภคที่ซื้อขนมหรืออาหารมารับประทาน ควรตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมทางในอาหารเพื่อสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักและยังไม่มีความระมัดระวังเพียงพอ

ทั้งนี้ ทางผู้ประสานงานตัวแทนบริษัทได้มอบข้าวเกรียบกุ้งถุงใหญ่กว่าเดิมให้ผู้บริโภค และหากผลตรวจสอบเป็นอย่างไรจะทำหน้งสือแจ้งและขอโทษต่อไป