ชาวบ้านร่วมพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงเจ้าพ่อ เลขโผล่กลางพิธี 3 ตัวตรง
วันที่ 21 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเมืองกลางเมืองไกล ชาวบ้านตำบลบ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้พร้อมใจกันจัดพิธีบวงสรวงและเปลี่ยนเครื่องทรงของเจ้าพ่อเมืองกลางและเจ้าพ่อเมืองไกล ที่ชาวบ้านกลางเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปกปักษ์รักษาให้ลูกหลานแคล้วคลาดจากภยันอันตรายต่าง ๆ พิธีเริ่มเวลา 09.09 น.ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบวงสรวง
จากนั้นได้ประกอบพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงของรูปปั้นเจ้าพ่อทั้ง 2 ท่าน เสร็จแล้วได้ทำการถวายหัวหมู บุหรี่มวนใบตองแห้ง เหล้าขาว ผลไม้ อาหารหวานคาว ที่ผู้ที่มาขอพรสำเร็จดังหวังแล้วนำมาแก้บน ซึ่งในปีนี้มีผู้นำหัวหมูมาแก้บนถึง 37 หัว
แต่ในขณะที่กำลังปักธูปที่หัวหมูและของเซ่นไหว้อยู่นั้น จู่ ๆผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มาร่วมพิธีและกำลังโปรยข้าวตอกดอกไม้อยู่นั้นได้เกิดอาการตัวสั่น ร้องไห้ น้ำตาไหล พร้อมกับร่ายรำอยู่ประมาณ 10 นาที อาการจึงกลับมาเป็นปกติ
นอกจากนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านและผู้เข้าร่วมพิธีต่างใจจดใจจ่อที่จะดูนั่นก็คือเลขธูปมงคลที่ได้จุดไว้ที่หัวหมู และเลขหางประทัดที่จุดถวายเจ้าพ่อ โดยธูปที่จุดที่หัวหมูเลขที่ปรากฏคือ 382 ส่วนหางประทัดมีข้อความว่ามั่ง มี ศรีสุข เลข 975และ42 ซึ่งต่างก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บไว้นำไปเป็นแนวทางเสี่ยงโชค เผื่อเจ้าพ่อท่านจะให้โชคส่งท้ายปีเก่าต้อนรับผีใหม่ ซึ่งหลังจากได้ตัวเลขแล้วบางคนก็รีบดิ่งไปยังแผงล็อตเตอรี่ที่นำมาขายอยู่ในบริเวณพิธีหลายแผงด้วยกัน
โดยตามตำนานเล่ากันมาว่า มีพี่น้อง 2 คน คนพี่ชื่อกลาง คนน้องชื่อไกล ทั้งสองท่านชอบเล่นโบก เล่นเบี้ย ซึ่งใช้เม็ดมะขามผ่าซีก ดังนั้นท่านจะนำเม็ดมะขามติดตัวอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งท่านทั้งสองได้เหาะเหินเดินอากาศมาจากประเทศลาว ได้โปรยเมล็ดมะขามตามเส้นทางที่เหาะผ่านมา เป็นการเสี่ยงทายว่า ถ้าต้นมะขามเจริญงอกงามที่ใดตั้งแต่ 3 ต้นขึ้นไปก็จะตั้งหลักปักฐานอยู่ ที่นั่น ซึ่งก็ปรากฏว่าในพื้นที่แห่งนี้มีต้นมะขามขึ้นมา 3 ต้น
บริเวณที่ตั้งศาลเจ้าพ่อเมืองกลาง เมืองไกลนี้ ได้มีผู้คนเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ เพื่อทำมาหากินบริเวณนี้ แล้วก็ขยายออกไปโดยรอบ ชาวบ้านก็จะสัญจรผ่านเส้นทางนี้ เพื่อทำไร่ ทำนา ทำสวน ตลอดจนติดต่อค้าขายกับหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นประจำ ก็จะผ่านเส้นทางระหว่างต้นมะขามใหญ่ 3 ต้น ที่มีต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นโพธิ์ใหญ่ ต้นหว้าใหญ่ กอไผ่ที่รกชัฏ ในตอนกลางวันแสง พระอาทิตย์ก็แทบจะส่องลงไม่ถึงพื้นดิน ทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือกจนผิดปกติ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่ามาว่า มีคน ผ่านไป - มา เพื่อทำการค้าขาย บางครั้ง มีคนขี่ม้า ขี่ช้าง
หรือคนที่ผ่านตรงสถานที่ ที่ศาลเจ้าพ่อเมืองกลาง เมืองไกลตั้งอยู่ มีผ้าโพกที่หัว หรือสวมหมวก โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่แสดงการเคารพ ก็จะมีอันเป็นไปทันที เช่น เป็นลมชักกระตุก เหมือนมีวิญญาณมาสิงอยู่ในร่างกาย หรือทั้งม้า ทั้งคนก็ล้มชักกระตุกทันที ต่อมาผู้คนเริ่มเลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ และเล่าขานกันต่อๆ ไป จนเป็นที่เลื่อมใส ศรัทธา และเคารพบูชา ชาวบ้านได้ช่วยกันตั้งศาลขึ้น เพื่อให้เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณของ เจ้าพ่อเมืองกลาง เมืองไกล มาจนถึงปัจจุบัน
ข่าวโดย อารีย์ สีแก้ว ทีมข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์
เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews